14/09/2547 12:48 น. |
ตามที่ผมได้อ่านติดตามสารสภาวิศวกร ประจำเดือน กค-สค.2547 ว่า ทางสภาจะมีโครงการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง โดยนับชั่วโมงอบรม เพื่อนำมาขอต่อใบอนุญาติประกอบวิชาชีพ จากที่ได้อ่านดูและคิดตามดูแล้วนะครับ วิศวกรต้องอบรบอย่างน้อย ปีละ 40 ชม. ซึ่งนั้นหมายถึง วิศวกรจะต้องจ่ายค่าอบรม อีกอย่างน้อยปีละ 4,000-6,000 บาท เป็นอย่างน้อย กับการต่ออายุ อีก 1,500 บาท ต่อ5ปี ดังนั้นถ้ามีการอบรมเพื่อขอต่อใบอนุญาติ และวิศวกรเสียค่าใช้จ่ายเองต่อการอบรมแต่ละครั้ง ถ้ารวมๆดูแล้วนะครับ จะเสีย 21,500 บาท /5ปี ในการต่ออายุใบประกอบวิชาชีพแต่ล่ะครั้ง จากเดิมปัจจุบันนี้เสีย 1500 บาท/5ปี มองดูแล้วถ้าเป็นโครงการที่พัฒนาวิศวกร ให้อบรมฟรีก็ดีนะครับ เป็นการส่งเสริมให้ความรู้วิศวกร โดยที่ทางสภาหาเงินโครงการจากรัฐบาลมาช่วยส่วนหนึง และใช้เงินจากการต่อสมาชิกของวิศวกรอีกส่วนหนึ่ง แต่เมื่อคิดดูแล้ว คงไม่ใช่เช่นนั้นครับ ทุกอย่างวิศวกรคงต้องจ่ายค่าต่างๆๆเองหมดแน่นอน ผู้เสียเปรียบคือวิศวกรเอง ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ทั้งๆสภาไม่เคยสนใจดูแลวิศวกรที่ตกงาน หรือวิศวกรที่เสียเปรียบนายจ้าง ค่าแรง 8000 บาทต้นๆ/เดือน ท่านเคยสนใจชีวิตวิศวกรที่จบมาหรือเปล่าครับ เคยที่จะทำให้วิศกรได้ประโยชน์จากวิชาชีพที่จบมาหรือเปล่าครับ บางคนจบมาเข้าทำงานโรงงาน มีใบวิชาชีพติดตัว แต่ไม่ได้ทำอะไร เพราะสายงานไม่เกียวข้อง แต่ต้องทำ ไม่มีทางเลือก คอยรองานตามที่จบมา อดตายพอดีครับ ไม่เห็นมีบริษัทไหนที่ให้ค่าวิชาชีพเพิ่มเติมเลยครับ มีกฎหมายสภาวิศวกรกำหนดมัยครับว่าวิศวกรที่ได้ใบประกอบวิชาชีพไปทำงานที่ไหน ต้องได้ค่าวิชาชีพ นี่คือความจริงครับ ตั้งใจเรียนเพื่อเก็บหน่วยกิจให้ได้ตามที่ กว กำหนด แถมยังจะมาเจอโครงการอบรม รีดเงินจากวิศวกรอีก อยากให้ผู้ที่ดูแลมองลงลึกๆบ้าง ครับ รู้นะครับพวกท่านมีขั้นถึงวุฒิแล้ว มีอะไรมั่นคง นั่งอยู่บ้านเฉยๆก็มีคนเอางานมาให้เช็นต์ แต่วิศวกรภาคี ทีมีอยู่มากกว่า 80 % ของสมาชิกสภา บางท่านยังลำบาก ยังหางานไม่ได้ก็มีนะครับ ถึงท่านเหล่านั้นมีใบวิชาชีพ แต่ไม่ใช่เครื่องการันตีนะครับ ว่าวิศวกรมีรายได้มากกันทุกคน อยากให้เพื่อนๆวิศวกรออกความคิดเห็นกันนะครับ และนี่คือความคิดเห็นอีกความคิดเห็นหนึ่งของวิศวกรวิชาชีพ ไม่ได้ต่อต้านนะครับ เป็นโครงงการที่ดี แต่ไม่อยากให้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาเพื่อรีดเงินวิศวกรกันเองครับ แสดงความคิดเห็นกันมานะครับ เพื่อนวิศวกร |
22/10/2551 23:06 น. |
ผมเห็นด้วยกับพี่น้องวิศวกรหลายๆคนนะครับจบมาทำงานไม่ตรงสายงานเงินเดือนก็น้อยค่า ก.ว. ก็ไม่ได้แล้วจะให้มาอบรบเสียเงินปีๆหนึ่งตั้งหลายหมื่นถามพวกตัวเป็งๆเถอครับถ้าจะให้อบรมจริงๆก็ได้ครับแต่ค่าใช้จ่ายกล้าเสียตาม % เงินเดือนไหมครับได้มากเสียมากได้น้อยเสียน้อย |
28/11/2551 12:01 น. |
กำลังจะขอพอดีอยู่เรยค่ะ เหงอย่างนี้ก้อไม่กล้าขอแร้ว เพราะไม่รุว่าจาเอาไปทำอะไรในเมื่อเงินเดือนก้อไม่ได้ขึ้นเรย ทำไมไม่มีอะไรมาควบคุมการให้เงินเดือนกับวิศวกรหล่ะค่ะ โตๆกันแล้วน่าจะคิดได้นะคะคนในสภาเนี่ย<br>ทำอะไรซักอย่างดิ ไม่ใช่คอยแต่หาประโยชน์เข้าตัว |
12/12/2551 14:46 น. |
ควรทบทวนหน้าที่ของสภาวิศวกร เน้นความเป็นอยู่ของสมาชิกทุกๆคนด้วยความยุติธรรม |
19/12/2551 18:11 น. |
ขืนไม่หาเงินเข้าสภา แล้วจะเอาอะไรมาจ่ายพวกกรรมการละ<br>ถ้าอบรมให้ฟรีๆ กรรมการก็ต้องอดนะซิ<br>เห็นใจเถอะ สภาฯต้องทำมาหากินจริงๆ พวกท่านสมาชิกก็ช่วยกันหนับหนุนหน่อยแล้วกัน เพื่อให้พวกเรากรรมการอยู่ได้<br>เราต้องหาเงิน แม้กระทั่งกับการรับรองหลักสูตรวิศวะ (แหล่งรายได้อันหนึ่งของพวกเรา) |
14/01/2552 19:06 น. |
ผมว่าค่าสมาชิกปีละ 200 บาทแพงไปนะ |
26/01/2552 20:03 น. |
ทำใจให้สบาย |
29/01/2552 15:56 น. |
เห็นด้วยครับ อบรม 5 วัน ครบ 40 ชั่วโมง บริษัท ไม่สนับสนุนการอบรม สนใจอบรมแต่ออกค่าใช้จ่ายเอง มันแพงอยู่ครับ ลดลงหน่อยนะครับ ใช้ประกอบการเลื่อนระดับก็ดีครับ สอบ ส.ย.มา2ครั้งแล้ว ยังไม่ผ่านเลย เรื่องหารายได้ ก็เห็นใจครับ เคยช่วยงานสภาหลายครั้งครับ เราไม่ร่วมสร้างให้เข้มแข็ง การต่อรองกับราชการเอกชน มันไม่มีน้ำหนักครับ เห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ ช่วยๆกันวิชาชีพเดียวกันครับ |
03/09/2552 14:16 น. |
เวรกรรมมากๆวิศวกรไทย |
09/10/2552 17:19 น. |
เห็นด้วยครับ เป็นกระทู้ถามที่ดีมากครับ |
17/10/2552 18:13 น. |
1. เห็นด้วยที่ต้องมีการอบรมเพิ่ม เพื่อพัฒนาความรู้ ว่ามีการพัฒนาตนเองอยู่สม่ำเสมอ ให้พร้อมกับการทำงานแต่ละแขนงหรือไม่<br>2. การวัดผลที่ชั่วโมงการอบรม ไม่ได้บ่งชีความสามารถของแต่ลุบุคคลได้เสมอไป เพราะเท่าที่อบรมมาก็เยอะ ไม่ได้มีการสอบแต่ละหลักสูตร ถึงมีส่วนใหญ่ก็สอบเป็นพิธี หรือนับชั่วโมงการเข้าอบรม<br>3. ควรเพิ่มการสอบเพื่อต่ออายุ เหมือนการสอบเลื่อนชั้นใบอนุญาตเพื่อทดสอบความรู้ว่าเหมาะสมที่จะทำงานวิศวกรรมนั้นๆ หรือไม่<br>โดยที่ข้อสอบอาจเป็นถูก1ผิดติดลบ1 หรือจะเป็นข้อเขียนทั้งหมด เพื่อจะได้มีการเตียมตัวให้พร้อมต่อการทดสอบ<br>4. นอกจากการอบรมอย่างต่อเนื่อง การสอบเพื่อต่ออายุ ควรเพิ่มการทำวิจัยในแขวงวิศวกรรมนั้นๆ เป็นรูปแบบรายงานตามที่กำหนดโดยสภาฯ กำหนดไปเลยว่ากี่ผลงาน แล้วส่งเข้าคณะกรรมการตรวจสอบผลงานวิจัย ว่ามีความรู้พอที่จะประกอบวิชาชีพนั้นได้ต่อไป หรือไม่ โดยผลงานวิจัยที่ไม่เคยมีใครทำเมื่อผ่านการสอบโดยคณะกรรมการ อาจจดสิทธิบัตรเป็นของบุคคลนั้นๆ โดยที่คณะกรรมการอาจเป็นระดับสามัญ หรือวุฒิ ซึ่งมีจำนวนมาก ที่เต็มใจทำงานเพื่อส่วนรวม <br> ดังกล่าว ข้างต้นเพื่อเป็นแนวทางต่อคณะกรรมการสภาฯ และพี่ๆน้องๆ วิศวกร |