Top 50 Popular Supplier
28/05/2549 13:05 น. ,
อ่าน 7,653 ครั้ง
ค่ากระแส Noload ของมอเตอร์
28/05/2549 13:05 น. |
ผมขอความเห็นกับท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ ผมเข้าใจว่าวิธีหนึ่งในการตรวจสอบ คุณภาพมอเตอร์หลังการซ่อม คือการดูจากกระแสมอเตอร์ขณะไม่ได้ขับโหลด อยากทราบว่าพอที่จะมีค่าที่กำหนดเกี่ยวกับ เปอร์เซนต์ของมอเตอร์ Noload เทียบกับ Full load หรือเปล่าครับ เพราะเผื่อจะได้ใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบมอเตอร์หลังการซ่อม |
ความคิดเห็นทั้งหมด 8 รายการ |
ความคิดเห็นที่ 1
|
28/05/2549 19:19 น. |
ประมาณ 20 ถึง 40 เปอร์เซ็น สำหรับมอเตอร์ 2 , 4 , 6 โปล ทั่วไป |
ความคิดเห็นที่ 2
|
30/05/2549 18:48 น. |
ขอเเบบ เป๊ะ ๆ เลยอ่ะพี่กี้มีปล่าวครับ เเบบไม่เอาประมาณ อดิเรก.... |
ความคิดเห็นที่ 3
|
30/05/2549 21:21 น. |
ไม่มีแบบ เป๊ะหรอกครับ<br>มอเตอร์เเต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ เขาออกแบบมาไม่เหมือนกัน<br> |
ความคิดเห็นที่ 4
|
31/05/2549 23:03 น. |
ขอให้ความเห็นอย่างนี้ครับ<br>สิ่งที่จะเป็นตัวแปรทั่วๆไปสำหรับ กระขณะไม่ได้ขับ<br>โหลดเมื่อเทียบกับกระแสพิกัดของมอเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 2 องค์ประกอบคือ <br>1. ขนาดของมอเตอร์ จะแปรผกผันกับค่ากระแส Noload<br>2. จำนวนโปล จะแปรผันตาม<br><br>ตัวเลขด้านล่างเป็นตัวเลขโดยประมาณของมอเตอร์ขนาด ตั้งแต่ 10 -300 แรงม้า <br><br> จำนวนโปลมอเตอร์ เปอร์เซนต์กระแส Noload<br> 2 25-33<br> 4 33 -40<br> 6 33 - 45<br> 8 33 -65<br> มากกว่า 10 60 -110 |
ความคิดเห็นที่ 5
|
01/06/2549 22:40 น. |
ขอขอบคุณครับสำหรับคำตอบทุกท่าน อยากถามคุณ ช่างซ่อมมอเตอร์เพิ่มเติมว่า มีตัวเลข ที่ดูแล้วสรุปง่ายกว่านี้หรือเปล่า เพราะดูเหมือน ตัวเลขจะอยู่ในย่านที่กว้าง และมีเงื่อนไข เกี่ยวกับ ขนาดของมอเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องอีก |
ความคิดเห็นที่ 6
|
03/06/2549 10:38 น. |
ถ้าเป็นตัวเลขมาตรฐาน ที่สามารถใช้กับหลายๆยี่ห้อของมอเตอร์ น่ะ ไม่มีครับ และไม่มีโอกาสที่จะทำเป็นมาตรฐานได้ เพราะจะขึ้นอยู่กับ การออกแบบของมอเตอร์แต่ละยี่ห้อ โดยเฉพาะปัจจัยหลักที่ทำให้ค่ากระแส Noload แตกต่างกันมากน้อย ก็คือ ค่า Airgap และ ค่าความร้อนที่ยอมให้สูงเพิ่มขึ้น( มอเตอร์แต่ละยี่ห้อจะมีความร้อนที่สู่งเพิ่มขึ้นไม่เท่ากัน แต่มาตรฐานจะเป็นตัวกำหนดว่าความร้อนที่สูงเพิ่มขึ้นต้องไม่เกินเท่าใด ) และแค่ 2 องค์ประกอบนี้ก็จะมีองค์ประกอบย่อยอีกมากมาย<br><br>พอดีว่าผมไปพบแคตตาล๊อกของมอเตอร์ยี่ห้อหนึ่ง คือ Western เขาได้กำหนดค่ากระแส Noload มาด้วยผมจึงจะมักใช้ค่าที่ได้จากแคตตาล๊อกของมอเตอร์ยี่ห้อนี้ บวกกับตัวเลขเปอร์เซนต์ด้านบน(ที่อยู่ในคำตอบที่ 4 ) มาใช้ในการพิจารณาร่วมกัน เพื่อดูความผิดปกติ ของมอเตอร์ ซึ่งจากการแนะนำให้โรงซ่อมที่ผมเป็นที่ปรึกษาใช้ดู ก็ได้ผลดีพอสมควร อย่างไรแล้วถ้าสนใจในวิธีของผม ลองสอบถามไปที่บริษัท ตัวแทนของมอเตอร์ยี่ห้อนี้ เพื่อขอแคตตาล๊อก มาลองใช้ดู |
ความคิดเห็นที่ 7
|
03/06/2549 22:56 น. |
กระแสขณะ โนโหลดไม่ใช้เรื่องที่สำคัญหรอกครับ มันสำคัญที่ ตอนเอาไปขับโหลดครับ โนโหลดทำได้ตามค่าในคำตอบที่ 4 จิง แต่พอเอาไปใช้งานจิง เกรียมเลยก้อมีเยอะ |
ความคิดเห็นที่ 8
|
04/06/2549 21:07 น. |
ถ้าเราต้องการที่จะพิจารณาคุณลักษณะของมอเตอร์ ( Motor Performance ) ว่ามีสภาพเป็นเช่นไร เทียบกับ คุณลักษณะเดิมของมอเตอร์ ( Original ) กระแส Noload จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในการบอกคุณลักษณะที่เป็นอยู่ ณ. ปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของกระแส Noload จะบ่งบอก ถึงการเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์ต่างๆที่เกี่ยวกับมอเตอร์ เช่น ค่าความสูญเสีย และอื่นๆ<br><br>แต่ถูกต้องอย่างที่คำตอบที่ 7 บอก กระแส Noload ไม่ใช่สิ่งที่รับประกันว่าถ้าค่าอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดในคำตอบที่ 4 แล้วมอเตอร์จะไม่มีโอกาสไหม้ เพราะการที่มอเตอร์มีความเสียหายเนื่องจากการไหม้เกิดจากสาเหตุได้มากมายหลายประการ เช่น โหลดเกิน แหล่งจ่ายไม่ปกติ และ อื่นๆ แต่กระแส NoLoad ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ จะบ่งบอกว่าสาเหตุที่ทำให้มอเตอร์เกิดความเสียหายไม่ได้เกิดจาก Motor Performance แต่มีสาเหตุมาจากอย่างอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องหาสาเหตุในอันดับต่อไป เมื่อต้องการไม่ให้มอเตอร์เกิดการไหม้ขึ้นมาอีก<br> |
ความคิดเห็นทั้งหมด 8 รายการ |
2 May 2025
:: MEMBER LOGIN
:: OUR SPONSORS
|
|
Copyright© 9engineer.com, All rights reserved. Tel. 086-1222078 Email: no-reply@9engineer.com (Powered By : SiamWebMaker.in.th)