e-Industrial Technology Center

About us | Guest Book | Contact us | Advertise

Send Your Friends

Set As Homepage

Bookmark

Top 50 Popular Supplier

1	100,000D_อินเวอร์เตอร์	177,609
2	100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า	174,811
3	100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์	174,188
4	100,000D_เครื่องมือช่าง	174,109
5	100,000D_เอซีมอเตอร์	171,547
6	100,000D_ดีซีมอเตอร์	170,622
7	100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง	169,579
8	100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร	168,954
9	เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย	162,127
10	100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน	159,415
11	100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง	159,339
12	100,000D_ขายของเล่นเด็ก	158,541
13	E&L INTERNATIONAL CO., LTD.	69,023
14	T.N. METAL WORKS Co., Ltd.	63,775
15	ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด	51,837
16	บ.ไทนามิคส์ จำกัด	44,628
17	Industrial Provision co., ltd	40,716
18	ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด	39,350
19	Infinity Engineering System Co.,Ltd	37,313
20	สยาม เอลมาเทค (siam elmatech)	35,631
21	ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด	34,536
22	ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย	32,857
23	เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด	32,288
24	บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด	32,107
25	โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด	28,539
26	ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง	27,547
27	P.D.S. Automation co.,ltd	23,920
28	AVERA CO., LTD.	23,639
29	เลิศบุศย์	22,627
30	ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป	21,408
31	เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง	21,293
32	Electronics Source Co.,Ltd.	20,975
33	แมชชีนเทค	20,904
34	มากิโน (ประเทศไทย)	20,147
35	อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด	20,100
36	ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด	19,895
37	Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd.	19,529
38	SAMWHA THAILAND	19,421
39	วอยก้า จำกัด	19,161
40	CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD.	18,613
41	IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD.	18,434
42	เอส.เอส.บี สยาม จำกัด	18,336
43	I-Mechanics Co.,Ltd.	18,318
44	ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง	18,289
45	ศรีทองเนมเพลท จำกัด	18,165
46	Intelligent Mechantronics System (Thailand)	18,141
47	Systems integrator	17,715
48	เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด	17,684
49	Advanced Technology Equipment	17,520
50	ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด	17,472

» Webboard » ซีเอ็นซี เครื่องจักรกล เครื่องมือกล แม่พิมพ์

15/01/2551 10:13 น. , อ่าน 7,389 ครั้ง

ทุกท่านคิดว่า ปี 51 นี้ แกะงานอะไรขายดีคะ

ang
15/01/2551
10:13 น.

อย่างเมื่อปีที่แล้วจตุคามมาแรงใช่ไหมคะ ปีนี้ ทุกท่านคิดว่า น่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด.... (เป็นไกด์ให้อังนิดนึงนะคะ... จะได้เป็นไอเดียทำงานออกมา) รูปบน เป็นงานที่ลองทำขึ้นค่ะ ไม่ค่อยสมบูรณ์ เพราะยังมือใหม่

ความคิดเห็นทั้งหมด 40 รายการ | 1 2 3 › »

ความคิดเห็นที่ 1

art
15/01/2551
14:13 น.

งานที่คิดออกมาเอง .. ที่ไม่ได้ทำให้คนงมงายมากยิ่งขึ้น งานที่ให้ปัญญา ที่เรามีส่วนช่วยสังคมได้ แล้วเราก็ขายได้ มันต้องมีบ้างละ ปีที่แล้ว ทำจตุคาม คนทำรวย แต่คนซื้อก็...เหมือนเดิม สังคมตกตํ่า ลองปรึกษา พระพยอม เผื่อมี สิ่งศักดิ์สิทธ์ ไอเดีย ที่ ให้ปัญญา คนส่วนใหญ่ได้ ไม่งมงาย แล้วก็ทำขายได้ เท่าที่เห็นมา ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหน มีอิทธิฤทธิ์ มากกว่า หยาดเหงื่อ และ ปัญญา มาช่วยสังคมกัน อาจจะเป็นเหรียญ ศีล 5 เหร๊ยญ หลัก การใช้ชีวิต เหรียญ การสร้างตัวจาก 0 รวยได้ ไม่ต้องโกง เหรียญ หลักการปฏิบัติ ตนเพื่อชาติโดยแท้จริง สำหรับนักการเมือง ออกกันมาเป็น series เลย ไม่ก็ออกแนวอนุรักษ์ วัฒนธรรม ศิลปะ ไทยต่างๆ อะไรก็ได้ ที่ช่วย สังคมได้โดยรวม แม้จะเป็แค่จุดเล็กๆ แต่มันยิ่งใหญ่ในหัวใจ ไม่เห็นด้วยไม่ว่ากันจ๊ะ

ความคิดเห็นที่ 2

kol
15/01/2551
16:26 น.

ทำไมไม่ลองทำที่ใจของคุณ...ผมว่าดีกว่าทำของพวกนี้อีก

ความคิดเห็นที่ 3

art
15/01/2551
18:10 น.

ทำใจ ช่วยได้ แค่ตัวเอง เห็นแก่ตัวเอง เอาตัวรอดได้คนเดียว คนอื่น ไม่สน จะมีประโยชน์อะไร ถ้า ดีอยู่คนเดียว ไม่แบ่งปัน จะมีประโยชน์อะไร ถ้า บ้านเรามีตังค์มหาศาล แต่ออกไปหน้าบ้าน สลัมเต็มไปหมด วันนี้ เราอาจมีรั้ว ล้อมบ้าน อยู่สุขสบาย แต่ซักวันหนึ่ง เมื่อคนสลัมพวกนั้น หมดทางไป ก็คงเข้ามาปีนเข้ามาบ้านเราบ้างสักวัน เรามักเคยชิน และโดยปลูกฝัง โดย ไม่รู้ตัว ว่า ช่างมันเถอะ เอาน่า หญวน กันไป ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ลืมคิดไปว่า นั่น เป็นสังคมของเรา และเราก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งในสังคมนั้น ไม่ส่วนใดก็ส่วนหนึ่ง ปีที่แล้ว คนทำจตุคาม 10 คน มีรายได้เพิ่มขึ้น คนซื้อ 90 คน มีรายได้ลดลง คนซื้อ 90 คน หาเงิน ที่ควรจะใช้ ในทางที่ถูก หลัก ร้อย หลัก พัน เพื่อแลก กับความหวังที่จับต้องไม่ได้ และความสบายใจ อีก 2 ปีผ่านไป คน 90 คนนั้นจะได้อะไร นอกจาก ก้อนอะไรสักก้อน มาเก็บไว้ และหวังว่ามันจะทำให้รวย และเก็งราคาได้ เราก็จะมี คน 90 คน ที่ ไม่ได้มีการพัฒนา หรือฉลาดขึ้นเลย หรือ ถ้า 90 คน นั้น คือ 40 เปอร์เซนต์ ของประเทศ ก็ เตรียมหา ที่อยู่ใหม่ให้ลูกๆ ได้ ถ้าบรรพบุรุษ หรือ ผู้นำ หรือ กษัตริย์ เรา ในอดีต มัวแต่ทำใจ ไม่มองภาพรวมๆ เห็นแก่ ส่วนตัว คงมีเสียกรุง มากกว่า 2 หน และนี่เราก็กำลังล่อแหลม ในการเสียกรุง หนที่ 3 ในสงครามแบบใหม่ เนื่องจากอ่อนด้อย ด้านปัญญา และการแยกแยะ ผิด ชอบ ชั่ว ดี ทุนนิยม คือระบอบเห็นแก่ตัว ว่ากันตามตำราส่วนใหญ่ ด้านทุน ก็ี่จะสอนให้ คน 10 คน เอาเงินจากคน 90 คน (จาก 100 ) ที่เหลือมาไว้ที่ตัว และให้คน 90 คน นั้น ทำงานให้ คิดวางระบบ ให้ คน 90 คนนั้น ทำเงินให้ แม้เราจะหนีทุนนิยมไม่พ้น แต่ เราก็อยู่กับมันได้ ถ้ารู้ทันระบบ และสร้างเกราะให้ตัวเอง เครื่องมือที่สร้าง เกราะ ให้ตัวเอง คือความรู้ รู้ทัน ไม่งมงาย คือหลัก เหตุและผล ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน หรือทำงานหนักแต่ไม่ฉลาด ก็เหนื่อยหน่อย ถ้าประเทศนี้ มีแต่คนคอยทำใจ ไม่ช่วยแก้ไข อีกหน่อย ประเทศนี้ ก็จะทำได้ แค่....ทำใจ ทำของพวกนี้ ดีกว่า ทำใจ

ความคิดเห็นที่ 4

P
15/01/2551
18:19 น.

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ในสากลโลก แล้วแต่ว่าจะยึดเหนี่ยวสิ่งใดไว้ครับ อยู่ที่ความศรัทธา แต่ผมว่าคุณอัง ไม่ควรเอาเบื้องสูงมาทำเพื่อการพาณิชย์นะคับ

ความคิดเห็นที่ 5

ผ่านมา
15/01/2551
21:25 น.

ผู้หญิงคนหนึ่ง แก้ผ้าให้ศิลปิน วาดรูป ชาวบ้านผ่านมาคนหนึ่ง พูดว่า อุบาทว์ ไม่มียางอาย คนเดินผ่านมาคนหนึ่ง พูดว่า รูปอะไรช่างงามเหลือเกิน แมวตัวหนึ่งเดินผ่านมา ร้องว่า เหมียว ก้อนหินก้อนหนึ่ง บ่นว่า ......................... พระรูปหนึ่งเดินผ่านมา แล้วก็ผ่านไป พอดีผมก็ผ่านมา ได้แต่ อมยิ้ม แล้วก็ร้องเพลงว่า สุขกันเถอะเรา ด่ากันทำไม่ อย่ามัวอะไร เสียเวลาไปเปล่า แล้วก็เดินผ่านไป ถ้าแยกพุทธพาณิชย์ ออกจากพุทธศิลป์

ความคิดเห็นที่ 6

AKE
15/01/2551
22:22 น.

ปรัชญากันใหญ่ ขอตอบแบบตรงคำถามสักคนแล้วกัน คิดว่าน่าจะเป็น พระพิฆเนต นะ กระแสกำลังมา แต่จะแรงแค่ไหน ไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ในวงการ

ความคิดเห็นที่ 7

AKE
15/01/2551
22:27 น.

เดี๋ยวจะหาว่าไร้สาระ แบบว่า... วัตถุมงคลไม่ได้ทำให้ศาสนาเสื่อม ที่เสื่อมคือตัวคน ต่างหาก ที่ห่างไกลศาสนา จนแยกแยะไม่ได้

ความคิดเห็นที่ 8

ผ่านมา
15/01/2551
22:56 น.

ท้าวเวชสุวรรณ ราหู พระพิฆเนศ

ความคิดเห็นที่ 9

A002
16/01/2551
09:24 น.

เคยได้อ่านหนังสือฝรั่งนะครับว่าถ้าเป็นอย่างอื่นกฎคือ 80/20 แต่การเงินคือ 90/10 ครับ ก้อน่าสนใจนะครับ

ความคิดเห็นที่ 10

ang
16/01/2551
10:03 น.

คนที่ติอัง นี่ ไม่ทราบว่าเป็นอะไรกันมากหรือเปล่าคะ..... ถามความคิดเห็นเท่านั้นค่ะ.... คุณยังไม่ทราบกันเลยว่า อังจะแกะ และขายนี่ อังทำไปเพื่ออะไร คุณยังไม่ทราบกันเลย ก็พูดจากันสักขนาดนี้แล้ว เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ.... งานของอังคือพนักงานบัญชี ก็ไม่ได้คิดจะไปต่อยอดไปทำพุทธพาณิชย์อะไรหรอกค่ะ แค่รายได้จากที่อังขายนี้ หักต้นทุนแล้ว....ก็จะไปให้กำไรทั้งหมดกับบ้านเด็กกำพร้าเท่านั้นเอง แค่หัวมันตื้อ ... คิดไม่ออก... ไม่ต้องเอาปรัชญาธรรมมาสอนหรอกค่ะ เปิดเว็บไซด์ธรรมะเดลิเวอร์รี่ ก็มีพระอาจารย์จริง ๆ มาสอนอยู่แล้ว พระจริง ๆ ไม่ใช่คนแบบว่ามือถือสากปากถือศีล......

ความคิดเห็นที่ 11

ang
16/01/2551
10:28 น.

ขอบคุณ คุณเอก และ คุณผ่านมา ที่แนะนำ คิดไว้เหมือนกันค่ะ ว่า น่าจะเป็นที่นิยม แต่ที่ให้แยกแยะ หรืออะไรประมาณที่คุณผ่านมาพูด สงสัยว่า จะมีคนเป็นหนักยิ่งกว่าอังมานานแล้วค่ะ อย่างพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ทำจตุคามขาย พระองค์นั้นเป็นพระที่ไม่ดีหรือคะ? ท่านทำเพื่อ นำเงินที่ได้ไปสร้าง โบสถ์ เอาไปบำรุงศาสนา กลับไปคิดกันใหม่นะคะ คำถามแค่นี้ กลับได้คำตอบที่ไม่น่าฟังมา ย้อนกลับถามตัวเองนะว่าพวกคุณคิดอะไรกันอยู่... ถึงได้แสดงความคิดที่ไม่ฉลาดออกมา

ความคิดเห็นที่ 12

P
16/01/2551
11:14 น.

ผมขอโทษด้วยแล้วกัน ถ้าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณอังเข้าใจผิด คิดอะไรที่สร้างสรรค์ และมีประโยชน์ก้ทำเถอะครับ ดีไม่ดีมีจะคนยกย่องด้วย

ความคิดเห็นที่ 13

ang
16/01/2551
11:31 น.

คนที่สอน Artcam เค้าบอกอังว่า ถ้าอังทำงานอะไรที่เกี่ยวกับการกุศล เค้ายินดีที่จะสอนแบบไม่รู้จบ

ความคิดเห็นที่ 14

art
16/01/2551
13:33 น.

ผมแค่แนะว่า ไหนๆ จะทำอะไรมาทั้งที ก็ให้ได้ประโยชน์ โดยรวม สร้างสรรค์สังคม อุตส่าห์ นั่งคิด ลงแรง ลงทุน คิด กำไร สรตะ ... ไม่ว่าจะทำ อะไร ก็ใช้ กระบวนเดียวกัน ต่างกันแค่โจทย์ตอนแรก จะพิมพ์หนังสือสักเล่ม ยังไงก็ใช้โรงพิมพ์เดียวกัน อยู่ที่ว่า จะทำหนังสือเรียน หรือหนังสือโป๊ แค่นั้น ทุกสังคมทุกวงการมีคนดี และไม่ดี เก่ง และไม่เก่ง เป็นหมอ ก็ใช่จะเก่งทุกคน จบ 1 รุ่น ก็ไม่ได้เกียรตินิยมทุกคน จะเรียกว่าหมอเก่ง ก็ต้องว่าเป็นรายคน ไม่เว้นแม้แต่ วงการพระ พระ ก็มี ระดับความเก่ง ความรู้ต่างออกไป แล้วแต่พื้นฐานดั้งเดิม ความรู้ การศึกษา ของแต่ละท่าน บางท่าน การศึกษา ดั้งเดิมดีเยี่ยม ครอบครัวดี จิตใจดี สนใจพุทธศาสนา ก็เข้ามาศึกษา เผยแผ่ ในหลักการที่ถูกต้อง กลับกัน บางท่านเบื้องหลังดี แต่พอมาบวช เจออาจารย์ สั่งสอนผิดทาง ก็เพี้ยนไป บางท่านต่างจังหวัด ไม่มีโอกาส ศึกษา ทางที่ดี พระพี่เลี้ยง ก็ส่งเสริม สั่งสอน ไปทาง ด้านลบ สอนจิตวิทยา การ พูด การจูงใจ เพื่อหาทางเอาปัจจัยจากญาติโยม คนงานบางคน อยู่ต่างจังหวัด ไม่มีงานทำ ก็ไปบวช ถามว่า บวชทำไม ก็ตอบง่ายๆ ว่า ไปเก็บตังค์ การเป็นพระนั้น เพียงข้ามวัน ก็เป็นได้ วันนี้ เป็นคนไม่เอาไหน กินเหล้าไม่ทำงานไม่มีอะไรทำแล้ว ไปขอหลวงพ่อบวชดีกว่า ห่มจีวรเสร็จ รุ่งขึ้น ออกบิณฑบาต ก็มีคนมาไหว้แล้ว บางทีในความคิดผม เป็นการส่วนตัว เท่าที่ เรียนรู้มา พุทธศาสนาที่แท้ ไม่เคย สอนให้ เคารพ รูปปั้น บูชา แก่นของ มัน อยู่ในคำสอน หลักธรรม พระไตรปิฎก รูปปั้น รูป เคารพ เป็น กุศโลบาย บางครั้ง กุศโลบาย หรือพิธีกรรม ก็ มีมากกว่า แก่นของธรรม ในการนำเสนอ จนบางครั้ง เราก็เขวไป ถ้าไม่หลอกตัวเอง ถามว่า เราเข้าวัด ทำบุญ ฟังพระเทศน์ เวียนเทียน ...เราเข้าใจความหมายของมันไหม หรือแค่ให้ได้ชื่อว่า เราเข้าวัด ฟังพระสวด บาลี ที่เราฟังไม่รู้เรื่อง เอาเงินทำบุญให้วัด แล้วออกมา เราสบายใจ เรารู้สึกว่า เราได้ทำบุญ แล้วได้เข้าวัด แล้ว แต่สิ่งที่ขาด คือไม่ได้ปัญญาเพิ่ม แค่ ศีล 5 ที่เรียนมาตั้งแต่เด็ก ไม่ต้องรู้ อะไรลึกซึ้งมากมาย ถ้าทำได้ ก็ไม่จนแล้ว ไม่ต้องไปเข้าวัดได้ ตลอดชีวิต ก็ถือว่าทำบุญแล้ว แค่ไม่กินเหล้า ก็ เพิ่มเงินในกระเป๋า ได้อีกโข รูปปั้น รูป เคารพ ไม่ได้เกิดจากพระเจ้าสรร สร้าง ไม่ได้เกิดจาก พระพุทธเจ้า มาบันดาล แต่เกิดจาก คน ในความเชื่อต่างๆ สร้างขึ้น เพื่อผล ที่ผู้สร้างต้องการต่างๆ กันไป แม้ พระไตรปิฎก ยังมีการสังคายนา สังคายนาโดยใคร โดยพระ หรือผู้รู้ พระ หรือผู้รู้ ก็คือ คน คนที่มีอายุ ไม่เกิน 100 ปี ไม่มีใครเกิดทันพุทธกาล คน ๆ นั้น หรือกลุ่มนั้น ก็ มีความรู้ต่างกัน มีความเชื่อ เป็นของตัว สื่อที่ท่านศาสดา ต้องการสื่อหาเรา ก็อาจมีผิดเพี้ยนบ้าง ตามการสังคายนาแต่ละครั้ง ถึงต้องมีการเช็คอยู่เรื่อยไป เหมือนเกมส์ ที่ พูดต่อๆ กัน คนที่ 1 พูด ต่อๆกันถึง คนที่สิบ พูดปาก ต่อ ปาก ต่อๆ กัน ไป ยากที่คนที่ 10 จะพูด เหมือนคนที่หนึ่ง สารที่ศาสดา ต้องการ ส่งมาหาเรา รุ่น ต่อรุ่น ก็มีการเพี้ยนไป ตามแต่ใคร จะตีความ เช่นกัน ก็แล้วแต่พระท่านใดจะตีความ หรือ เรียนมาจากตำราไหน สายไหน ถึงยังมีพุทธ หลายนิกาย ทั้งที่เริ่มจาก ศาสดาองค์เดียว อยู่ที่ว่า ใครจะศึกษา ค้นหา ไปสู่ แก่นแท้ ที่ท่านต้องการสอนเรา ได้มากกว่ากัน ในความเห็นส่วนตัวของผม ยํ้าว่าส่วนตัวเท่านั้น บางท่านอาจจะแช่งให้ผมตกนรก ถ้าผมจะบอกว่า ผมไม่นับถือ เกจิ อาจารย์ รูปใด ที่กระทำการเช่นนั้น ผมคงไหว้ได้ไม่สนิทใจ แต่ไหว้ได้ แค่บางสิ่งในทางธรรมที่ท่านนั้นมากกว่าผม แต่ไม่ทั้งหมดทุกเรื่อง ผมเคยเห็นฆราวาส บางท่าน อายุ ไม่มาก มีความรู้ทางธรรม มากว่า พระบางท่านที่ว่าดังๆเสียอีก ต้องดูเป็นรายๆ ไป ว่าดังด้านใด ขออภัยถ้าอ่านแล้วไม่สบายใจ ไม่ได้มีเจตนา ทำให้ขุ่นเคือง ไม่ได้ตำหนิอะไร ( ถ้าอ่านแบบมีปัญญา ก็จะเห็นเนื้อหา ) ถ้ายังไม่ได้ทำ ก็ไม่น่าโกรธอะไร ก็หมายความว่า นี่เป็นข้อเสนอหนึ่งเท่านั้น ยํ้าว่า ไม่เห็นด้วยไม่ว่ากันจ๊ะ

ความคิดเห็นที่ 15

ang
16/01/2551
14:05 น.

ท่าทางจะเป็นเอามากนะคะ...

ความคิดเห็นทั้งหมด 40 รายการ | 1 2 3 › »

ความคิดเห็น