08/09/2549 20:14 น. |
อะไรคือตัวบอก ว่า เป็น High speed ครับ <br>ขอ ความรู้ ด้วยครับ เห็น คุยกัน จัง |
12/09/2549 19:04 น. |
ทฤษฎี หลักๆ ของhigh speed มาจาก ไหน บ้าง ครับ พี่ สืบ |
13/09/2549 14:18 น. |
ทฤษฎี หลักๆ ของhigh speed ที่ถามนี้ผมไม่แน่ใจ ว่าหมายถึงแนวไหน แต่นี่เป็นความเห็นส่วนตัวที่อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้ (ท่านอื่นๆให้ความเห็นต่อได้นะครับ) <br><br>เท่าที่จำได้เรื่อง high speed นั้น เริ่มจากการพัฒนาการของ การขจัดปัญหาเรื่องเวลาที่ใช้ใน ขบวนการผลิตแม่พิมพ์ โดยมีการตั้งธงไว้ว่า จะทำอย่างไรเพื่อลดเวลาในการทำแม่พิมพ์ลง โดยคำนึงถึงต้นทุนของเวลา เข้าไปในต้นทุนสินค้าด้วย <br><br>ซึ่งสมัยก่อนโรงงานเถ้าแก่คนเดียว มักไม่คำนึงถึงเท่าใด เนื่องจากคิดว่าค่าแรงต่ำ คู่แข่งน้อย แต่ในต่างประเทศ เขาคิดล่วงหน้าไปแล้ว และเมื่อเริ่มมีการแข่งขันทางการค้า จึงเริ่มรู้ว่า หากผลิตสินค้าได้เร็วขึ้น นั่นหมายถึงกำไรอย่างอื่นที่ตามมา ซึ่งเป็นกำไรทางอ้อม เช่น ดอกเบี้ย OD หายไป 1 วัน ส่งงานเร็วขึ้น ทำให้วางบิลได้ ไม่ต้องรอวางบิลเดือนหน้า สามารถรับงานได้มากขึ้น ฯลฯ จึงเริ่มมีการคำนึงถึงต้นทุนเวลา และทำอย่างไรจะให้งานเสร็จเร็ว <br> <br>ในช่วงแรกๆนั้น ดอกกัดได้พัฒนาไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งกว่า 20 ปีแล้วที่มีเริ่มมีดอกกัดทำจากวัสดุทังสเตนคาร์ไบด์ ทำให้ค่าความเร็วตัด Vc เปลี่ยนจาก 25 - 35 ไปเป็น 40 - 60 เร็วขึ้นกว่าเท่าตัว หลังจากนั้นจึงมีการพัฒนาขบวนการเคลือบผิว ต่างๆจนพัฒนามาอย่างที่เห็น (อธิบายไว้ข้างบนแล้ว) <br>เมื่อดอกกัด ต้องการความเร็วเพิ่มขึ้น ก็ต้องมีอุปกรณ์ หรือ รอบของเครื่องต้องเพิ่มตาม จึงมีการผลิต หัวจับแบบเพิ่มรอบได้ และเลยไปจนถึงมีการพัฒนามอเตอร์ของคอเครื่อง <br><br>ด้วยเหตุปัจจัยหนึ่ง ของการทำแม่พิมพ์ คือ ต้องใช้ขบวนการสปาร์ค ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นานมาก ดังนั้นเขาเหล่านั้นจึงพยายามหา ว่าจะลดขั้นตอนอย่างไร โจทย์ มันจึงไปตอบลงที่ การพัฒนาให้เป็น High Speed เพราะเขาเหล่านั้นรู้ดีว่า หากวัดอัตราการขจัดเศษ (Removeable Rate) เครื่องกลึงทำได้ดีกว่าเครื่องมิลลิ่ง มาตั้งแต่เริ่มแล้ว (ดึกดำบรรพ์ ไง) <br><br>เขาจึงต้องพัฒนา High Speed ในงานมิลลิ่ง และเมื่อเริ่มวิจัย ทดสอบ เขาเลยได้พบ คำตอบของโจทย์อีกหลายข้อ ที่มาจากขบวนการชุบแข็ง เช่น ค่าความไม่สเถียรของเหล็กที่ผ่านการชุบแข็ง (บริเวณชั้นผิวงานด้านบน/นอก) การหดตัว บิดตัว <br>และ เวลาที่เทียบกับการสปาร์ค ที่ High Speed ดีกว่า <br>ส่วนทฤษฎี นั้น เฉพาะตัว High Speed ไม่ทราบ แต่อาจพิจารณาแยกในการพัฒนาของแต่ละส่วน เช่น <br><br>1. การผลิต Spindle Motor จำเป็นต้องพึ่ง ตลับลูกปืน ที่ทนความร้อน มีความเที่ยงตรงสูง มีระบบการป้องกันการยึดตัวของโลหะ (ที่เรียกว่า ค่าสัมปะสิทธิการขยายตัว ซึ่งมีในโลหะเกือบทุกชนิด) ความละเอียดในการผลิตชิ้นส่วน ความสะอาดในการประกอบ ฯลฯ <br>2. วัสดุที่ใช้ทำดอกกัด จำเป็นต้องมีค่าความเหนียวสูง ทนทานต่ออุณหภูมิ ตอนที่มีการขึ้นคม (เจียร) ทนต่อการเสียดสี ทนความร้อนสูง <br>3. วัสดุ/สารที่เคลือบผิวดอกกัด ต้องลดแรงเสียดทางได้ดี ทนความร้อน ทนการเสียดสี ต้องไม่หนามากเกินไป (ไม่ควรเกิน 5 ไมครอน) <br>4. การพัฒนาระบบขับเคลื่อน และอื่นๆ (กลับไปอ่านด้านบน) <br><br>สรุปว่า ทฤษฎี หลักๆ ของhigh speed ตามที่ถามนั้น ในความคิดผมคิดว่าไม่มีในขณะเริ่มต้น แต่มันเกิดหลังจากมีแนวความคิดในการแก้ปัญหาและสร้างตลาดตามด้านบนเกิดขึ้น <br>จากนั้นจึงมีการนำมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละเรื่องมาปรับใช้ เพราะจำเป็นต้องพึง มาตรฐานทางด้านมิติ หลายเรื่อง เพื่อผลิตชิ้นส่วนที่ละเอียด เที่ยงตรงสูง <br>มาตรฐาน ทางด้านเคมี ความร้อน <br>และอื่นๆ ซึ่งมาตรฐานเหล่านั้น ก็จะมีทฤษฎี และที่มาแตกต่างกันออกไปอีก <br><br>สุดท้ายแล้ว งง เปล่า ? |
14/09/2549 11:29 น. |
ขอคุณ ครับพี่ สืบ แต่ ที่ผม ถาม คือ เช่น<br>high speed พัฒนามาจาก หลักการอะไร แนว ไหน ใคร เป็น ผู้เริ่มต้น แบบ E = mc2 ของ Einstein น่ะ ครับ พี่สืบ <br>รบกวน ด้วย ครับ ทุกท่าน |
14/09/2549 17:58 น. |
ไม่เข้าใจครับ และไม่แน่ใจว่ามีข้อมูลหรือเปล่า <br><br>เพราะ มันเป็นหลักการที่เกิดจากการพัฒนา แล้วนำมาเรียก ไม่ใช่การสร้างสูตร คำนวณ เพราะการคำนวณสำหรับ งาน High Speed <br>อาจมีสูตรหนึ่ง คือ แรงจากการหนีศูนย์ ( un-balance material )<br>แต่ขอโทษไม่มีเอกสารในมือ เลยไม่มีสูตรให้ <br>และหากถามการพัฒนาจากใครเป็น ผู้เริ่มนั้น ผมไม่มีเวลาค้นให้ครับ <br>ขออภัยด้วย |
15/09/2549 01:00 น. |
ตอบได้ดีมากเลยครับพี่สืบ |
19/09/2549 15:35 น. |
ขอบคุณ ทุกท่านมากมากครับ <br>especially พี่สืบ |
28/09/2549 15:44 น. |
จบ แล้ว เหรอครับ งง จัง |