Top 50 Popular Supplier
28/06/2548 23:11 น. ,
อ่าน 30,291 ครั้ง
การต่อมอเตอร์ 3 เฟส
28/06/2548 23:11 น. |
เราจะต่อมอเตอร์ 3 เฟส ใช้งาน อย่างไรดี ในกรณีที่แนมเพลสไม่ได้ระบุว่าต่อแบบสตาร์หรือเดลต้า แต่ระบุค่าแรงดัน เช่น 220/380<br>หรือ 380/660 |
ความคิดเห็นที่ 76
|
02/07/2552 19:56 น. |
จากคำถามที่ถามมานั้นมีความรู้สึกแม่งบ้างคนก็มั่วเร่มที่คำถามที่1เราจะต่อมอเตอร์ 3 เฟส ใช้งาน อย่างไรดี ในกรณีที่แนมเพลสไม่ได้ระบุว่าต่อแบบสตาร์หรือเดลต้า แต่ระบุค่าแรงดัน เช่น 220/380<br>หรือ 380/660เรารู้ว่าเป็นมอเตอร์ 3เฟสเราต้องดูแหล่งจ่ายไฟก่อนรู้จักหรือไม่R=p*l/aเราให้p=32หรือ56 แล้วแต่ว่าเราใช้ทองแดงหรืออลูมิเนียมlคือความยาวaคือพื้นที่หน้าตัดrให้เป็นแรงดันคูณกับแรงดันตกภายในสายเราก็สามารถรู้ว่าใช้สายกี่เมตรถึงให้แรงดันตกไม่เกินเท่าไรและสามารถต่อแบบสตาร์เดลต้านั้นได้ไม่ได้เราต้องดูที่มอเตอร์ว่าเป็นแบบอาไรถ้า 3 เฟสก็สามารถต่อได้เลยวงจรนั้นหาเอาเองทางเน็ตหรือในหนังสือแล้วกัน |
ความคิดเห็นที่ 77
|
17/08/2552 21:50 น. |
หัวข้อ 15 คิดได้ไง |
ความคิดเห็นที่ 78
|
03/09/2552 22:13 น. |
ต่อขั้วมอเตอร์ทำอย่างไร<br> |
ความคิดเห็นที่ 79
|
22/09/2552 15:27 น. |
มอเตอร์ 3 เฟสมีทั้งหมดกี่แรงม้าแต่ละแรงม้ามีความเร็วรอบเท่าไรกี่แรงม้ากี่ความเร็วรอบที่เหมาะต่อการนำไปใช้กับไม้ |
ความคิดเห็นที่ 80
|
17/10/2552 09:57 น. |
หัวข้อ 15 คิดได้ไงงง |
ความคิดเห็นที่ 81
|
29/10/2552 22:49 น. |
อยากทราบวิธีหาต้นและปลายของขดลวด u1 u2 v1 v2 w1 w2 ช่วยหน่อยนะครับ |
ความคิดเห็นที่ 82
|
26/12/2552 04:22 น. |
การต่อที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม |
ความคิดเห็นที่ 83
|
30/12/2552 19:32 น. |
หน้าที่ไฟ3เฟสที่ต่อเมอเตอร์ |
ความคิดเห็นที่ 84
|
28/01/2553 11:29 น. |
เช็คขั้วมอเตอร์ 3 เฟส |
ความคิดเห็นที่ 85
|
03/02/2553 23:45 น. |
มอเตอร์สามเฟสขนาดใหญ่ในงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องมีการเริ่มสตาร์ท<br>ด้วยวิธีการลดแรงดันเพื่อความปลอดภัยต่อมอเตอร์และอุปกรณ์เครื่องจักรกล<br><br> |
ความคิดเห็นที่ 86
|
03/02/2553 23:47 น. |
ปกติถ้าต่อสายตรงหรือD.O.L.จะต่อแบบเดลต้า มอเตอร์จะมีแรงมากกว่า และช่วงวิ่งเข้าหารอบทำงาน จะดูดไฟฟ้าประมาณสามเท่าของการใช้งานปกติ แต่ถ้าเราเข้าสายเป็นสตาร์มอเตอร์จะมีแรงน้อยกว่า แต่มอเตอร์จะร้อนมาก แต่กินไฟฟ้าสตาร์ทน้อย เมื่อเอาทั้งคู่มาช่วยกัน โดยสตาร์ทด้วยสตาร์ จนรอบสูงขึ้นแล้วสับเข้าเดลต้า การดูดไฟฟ้าสามเท่าจะเกิดแค่ช่วงรอบที่ยังไม่ถึง หรือกล่าวคือดูดไฟฟ้าน้อยลง<br><br>เราใช้การต่อมอเตอร์แบบนี้ เพื่อลดการกระชากไฟฟ้าในระบบ สมัยก่อนถ้าบ้านอยู่ใกล้โรงงาน หากโรงงานสตาร์ทมอเตอร์ตัวโตๆ ไฟฟ้าจะตกทั้งบาง ดูทีวีไม่ได้เลย<br><br>ปัญหามักจะอยู่แถวๆจะตั้งเวลานานเท่าไร จึงจะกระชากไฟฟ้าน้อยที่สุด มอเตอร์ร้อนน้อยที่สุด แต่ต่อไปถ้าอินเวิทเตอร์ถูกลง จะเข้ามาแทนที่ทั้งหมด สตาร์/เดลต้าจะกลายเป็นเทคโนโลยี่ในตำนาน<br> |
ความคิดเห็นที่ 87
|
03/02/2553 23:48 น. |
การสตาร์ทมอเตอร์ 3 เฟสที่มีขนาดใหญ่กระแสขณะ <br>สตาร์ทมีค่าสูงซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอันตรายต่อมอเตอร์ <br>ได้ ดังนั้นขณะสตาร์ทมอเตอร์จะต้องหาวิธีการในการลด <br>กระแสจำนวนนี้ วิธีการหนึ่งที่นิยมใช้คือ การสตาร์ท <br>มอเตอร์แบบสตาร์ และรันแบบเดลตา หรือแบบ (Y-D) <br>ซึ่งวิธีการต่อแบบสตาร์-เดลตา สำหรับระบบแรงดัน <br>380/220 โวลต์ สามารถทำการสตาร์ทแบบ <br>สตาร์-เดลตาได้มอเตอร์จะต้องมีพิกัดเท่ากับ <br> |
ความคิดเห็นที่ 88
|
03/02/2553 23:55 น. |
ตัวอย่าง จงกำหนดขนาดของกระแสไฟฟ้าสำหรับมอเตอร์เหนี่ยวนำ 3 เฟส ขนาด 10 แรงม้า<br>380 โวลท์ 17แอมแปร์<br> วิธีทำ <br> ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าต้องไม่ต่ำกว่า125เปอร์เซ็นต์ของพิกัดกระแสโหลดเต็มที่<br> = 1.25 &times;17<br> = 21.25 A<br> ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 22 แอมป์แปร์<br> |
ความคิดเห็นที่ 89
|
03/02/2553 23:59 น. |
ตัวอย่างที่3 จากข้อมูลมอเตอร์4 ตัวในตัวอย่างที่2 ถ้าต้องการใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ เป็นเครื่องป้องกัน<br>การลัดวงจร จงกำหนดขนาดเซอร์กิตเบรคเกอร์ของมอเตอร์แต่ละตัวและเซอร์กิตเบรกเกอร์ของสายป้อน<br><br> วิธีทำ<br> ก. ขนาดเซอร์กิตเบรคเกอร์ของมอเตอร์แต่ละตัวพิจารณาตารงที่3 <br> - M1รหัสอักษร ฺB ไม่เกิน 200 % ของกระแสโหลดเต็มที่ <br> = 200 &times;9.2 = 18.4A<br> 100<br> เลือกใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ขนาด 20 แอมแปร์ <br> M2รหัสอักษรE ไม่เกิน 200 % ของกระแสโหลดเต็มที่ <br> = 200 &times; 13 = 26A<br> 100<br> เลือกใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ขนาด30 แอมแปร์ <br> - M3รหัสอักษรF ไม่เกิน 250 % ของกระแสโหลดเต็มที่ <br> = 250 &times; 17 = 42.5A<br> 100<br> เลือกใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ขนาด40 แอมแปร์หรือ 50 แอมแปร์ <br> เลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ขนาด30 แอมแปร์ <br> - M4 ไม่มีรหัสอักษรไม่เกิน 250 % ของกระแสโหลดเต็มที่ <br> = 250 &times; 25 = 62.5A<br> 100<br> เลือกใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ขนาด70แอมแปร์ <br> ข.ขนาดเซอร์กิตของสายป้อน<br> = 70 +17+13+9.2 = 109.2 <br> เลือกใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ขนาด100แอมแปร์<br><br>ง.วงจรที่มีมอเตอร์<br> ขนาดสายป้อน และเครื่องป้องกันการลัดวงจรสายป้อน และเครื่องป้องกันการลัดวงจรสายป้อน<br>จะใช้หลักการเดียวกับที่กล่าวมาแล้ว <br><br> |
ความคิดเห็นที่ 90
|
04/02/2553 00:01 น. |
มอเตอร์ไฟฟ้าแบ่งออกตามการใช้ของกระแสไฟฟ้าได้ 2ชนิดดังนี้<br> 1.2.1 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ(Alternating Current Motor) หรือเรียกว่าเอ.ซี มอเตอร์<br>(A.C. MOTOR)การแบ่งชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้าสลับแบ่งออกได้ดังนี้<br> มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับแบ่งออกเป็น3 ชนิดได้แก่<br> 1.มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับชนิด 1 เฟส หรือเรียกว่าซิงเกลเฟสมอเตอร์ (A.C. Sing Phase)<br> - สปลิทเฟส มอเตอร์(Split-Phase motor)<br> - คาปาซิเตอร ์มอเตอร์(Capacitor motor)<br> - รีพัลชั่นมอเตอร์(Repulsion-type motor)<br> - ยูนิเวอร์แวซลมอเตอร์(Universal motor)<br> - เช็ดเดดโพล มอเตอร์(Shaded-pole motor)<br> 2.มอเตอร์ไฟฟ้าสลับชนิด 2 เฟสหรือเรียกว่าทูเฟสมอเตอร์(A.C.Two phas Motor)<br> 3.มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับชนิด 3 เฟสหรือเรียกว่าทีเฟสมอเตอร์(A.C. Three phase Motor)<br> 1.2.2.มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง(Direct Current Motor )หรือเรียกว่าดี.ซี มอเอตร์ (D.C. MOTOR)การแบ่งชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบ่งออกได้ดังนี้ <br> มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงแบ่งออกเป็น 3 ชนิดได้แก่<br> 1.มอเตอร์แบบอนุกรมหรือเรียกว่าซีรีส์มอเตอร์(Series Motor) <br> 2.มอเตอร์แบบอนุขนานหรือเรียกว่าชันท์มอเตอร์(Shunt Motor)<br> 3.มอเตอร์ไฟฟ้าแบบผสมหรือเรียกว่าคอมเปาวด์มอเตอร์(Compound Motor) <br> <br> |