Top 50 Popular Supplier
1 100,000D_อินเวอร์เตอร์ 176,060
2 100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า 173,638
3 100,000D_เครื่องมือช่าง 173,036
4 100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ 172,849
5 100,000D_เอซีมอเตอร์ 170,521
6 100,000D_ดีซีมอเตอร์ 169,600
7 100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง 168,554
8 100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร 167,850
9 เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย 160,423
10 100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน 158,495
11 100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง 158,407
12 100,000D_ขายของเล่นเด็ก 157,559
13 E&L INTERNATIONAL CO., LTD. 67,671
14 T.N. METAL WORKS Co., Ltd. 62,199
15 ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด 50,620
16 บ.ไทนามิคส์ จำกัด 43,607
17 Industrial Provision co., ltd 39,271
18 ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด 38,419
19 Infinity Engineering System Co.,Ltd 36,349
20 สยาม เอลมาเทค (siam elmatech) 34,671
21 ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด 33,515
22 ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย 31,906
23 เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด 31,272
24 บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด 31,018
25 โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด 27,639
26 ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง 26,565
27 P.D.S. Automation co.,ltd 23,000
28 AVERA CO., LTD. 22,623
29 เลิศบุศย์ 21,724
30 ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป 20,454
31 เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง 20,296
32 แมชชีนเทค 19,945
33 Electronics Source Co.,Ltd. 19,910
34 อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด 19,237
35 มากิโน (ประเทศไทย) 19,192
36 ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด 18,838
37 Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. 18,649
38 SAMWHA THAILAND 18,354
39 วอยก้า จำกัด 17,955
40 CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD. 17,525
41 IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD. 17,385
42 ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง 17,358
43 I-Mechanics Co.,Ltd. 17,296
44 เอส.เอส.บี สยาม จำกัด 17,267
45 Intelligent Mechantronics System (Thailand) 17,175
46 ศรีทองเนมเพลท จำกัด 17,134
47 Systems integrator 16,751
48 เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด 16,687
49 ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด 16,521
50 Advanced Technology Equipment 16,497
04/10/2550 22:32 น. , อ่าน 4,275 ครั้ง
Bookmark and Share
ขอใช้ไฟสามเฟส
อยากทำเอง
04/10/2550
22:32 น.
ขอใช้ไฟฟ้า สามเฟส 20 แอมป์ ต้องใช้สายลวดี่ มม ครับ อยากทำเอง จางเขาแพงไฟ
ความคิดเห็นทั้งหมด 6 รายการ |
ความคิดเห็นที่ 1
เล็ก
07/10/2550
16:31 น.
การขอใช้ไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัย<br><br>สถานที่ที่ขอใช้ไฟฟ้า ต้องมีบ้านเลขที่และหรือมีสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอใช้ไฟฟ้ามาแสดง <br><br>สถานที่ติดต่อขอใช้ไฟฟ้า ติดต่อขอแบบฟอร์มคำร้องขอใช้ไฟฟ้าได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าฯทุกแห่ง กรอกแบบฟอร์มให้ถูกต้องแล้วยื่นแบบฟอร์มที่ <br>สำนักงานการไฟฟ้าฯในท้องที่ที่ขอใช้ไฟฟ้า <br><br>หลักฐานที่จะต้องนำมาแสดง<br>1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ <br>2. สำเนาทะเบียนบ้านที่จะขอใช้ไฟฟ้า <br>3. ในกรณีที่ผู้ขอใช้ไฟฟ้าเดินสายและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคารเอง ถ้ามีจำนวนดวงโคมเต้ารับและ เครื่องไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้แล้ว และ ที่ติดตั้งใหม่รวมกันเกินกว่า 20 จุด (หนึ่งจุดเท่ากับดวงโคม 1 ชุด หรือเต้ารับ 1 ชุด) หรือใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 5 กิโลวัตต์ จะต้องส่งแผนผังการเดินสาย และ ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดมาตราส่วนไม่เกิน 1:100 จำนวน 2 ชุด เพื่อใช้ประกอบในการตรวจสอบแผนผังการเดินสายนี้ ผู้ขอใช้ไฟฟ้าจะจ้าง การไฟฟ้าฯจัดทำให้ก็ได้ <br>4. ผู้ขอใช้ไฟฟ้าอาจจะมอบให้ผู้อื่นไปทำการแทนได้โดยทำหนังสือมอบอำนาจซึ่งมีผู้ลงนามเป็นพยาน 2 คนและปิดอากรแสตมป์ 10 บาท ผู้รับมอบอำนาจ ต้องนำหลักฐานตามข้อ 1-3 ของผู้มอบอำนาจไปแสดงพร้อมหลักฐาน ตามข้อ 1 ของผู้รับมอบอำนาจเองด้วย <br><br>--------------------------------------------------------------------------------<br><br>ขั้นตอนการขอใช้ไฟฟ้า <br><br>เมื่อการไฟฟ้าฯได้รับคำร้อง และมีหลักฐานดังกล่าวข้างต้นเรียบร้อยแล้ว การไฟฟ้าฯจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ การเดินสายภายในอาคาร <br>เมื่อการไฟฟ้าฯได้ทำการตรวจสอบแล้วหากการเดินสายหรือการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ถูกต้องและ ไม่ปลอดภัย การไฟฟ้าฯจะให้คำแนะนำ เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง และเมื่อตรวจสอบถูกต้องแล้ว จะแจ้งให้ผู้ใช้ไฟฟ้า ทราบ เพื่อชำระค่าธรรมเนียม <br>ในกรณีที่ผู้ขอใช้ไฟฟ้ายังไม่ได้ติดตั้งสายภายในอาคารเมื่อติดตั้งสายภายในอาคารเรียบร้อยแล้ว ขอให้แจ้งการไฟฟ้าฯทราบอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตรวจสอบให้ต่อไป <br>เมื่อตรวจสอบถูกต้องเรียบร้อยแล้ว โปรดชำระเงินค่าธรรมเนียมที่การไฟฟ้าฯที่ท่านขอใช้ไฟฟ้า และโปรดรับใบเสร็จรับเงิน จากเจ้าหน้าที่เก็บไว้ เป็นหลักฐานต่อไปด้วย ค่าธรรมเนียมการใช้ไฟฟ้า <br>ในการขอใช้ไฟฟ้า ผู้ขอใช้ไฟฟ้าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้ไฟฟ้าตามที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ กำหนดอัตราไว้ตามชนิด และขนาดของมิเตอร์ที่ขอติดตั้ง โดยสอบถามรายละเอียด ที่สำนักงานการไฟฟ้าฯได้ทุกแห่ง ดังนี้ <br><br>1. ค่าธรรมเนียมต่อไฟ <br>2. ค่าตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร <br>3. ค่าส่วนเฉลี่ยการใช้พลังไฟฟ้า <br>4. เงินประกันการใช้ไฟฟ้า <br>5. ค่าอุปกรณ์ไฟฟ้าหลังมิเตอร์(ถ้ามี) <br><br>การชำระค่าไฟฟ้าและการตรวจสอบมิเตอร์ <br>1. การอ่านมิเตอร์ การไฟฟ้าฯจะอ่านหน่วยในมิเตอร์ตามระเบียบของการไฟฟ้าฯ<br>2. การชำระค่าไฟฟ้า ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องชำระค่าไฟฟ้าเมื่อพนักงานเก็บเงินไปเรียกเก็บจากท่าน ถ้าไม่ได้รับชำระพนักงานเก็บเงิน จะมอบใบเตือนให้ผู้ใช้ไฟฟ้า นำเงินไปชำระที่สำนักงานการไฟฟ้าฯในเขตที่ท่านอยู่ ถ้าครบกำหนดในใบเตือนแล้วยังมิได้ชำระเงิน การไฟฟ้าฯจะงดจ่ายไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว ถ้าผู้ใช้ไฟฟ้ามีความประสงค์ จะให้การไฟฟ้าฯเก็บเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือน ณ สถานที่อื่นที่สะดวกต่อการชำระเงิน ควรปฏิบัติ ดังนี้ 2.1 แจ้งทางโทรศัพท์ไปที่การไฟฟ้าฯ <br>2.2 ติดต่อด้วยตนเองที่การไฟฟ้าฯ <br>2.3 มีหนังสือแจ้งต่อผู้จัดการไฟฟ้าฯ <br>อนึ่ง การไฟฟ้าฯได้เปิดบริการชำระค่าไฟฟ้า โดยวิธีหักบัญชีเงินฝากธนาคาร ขอให้สอบถามระเบียบการได้จากสำนักงานการไฟฟ้าฯทุกแห่ง <br>3. การตรวจสอบมิเตอร์ตามที่ผู้ใช้ไฟฟ้าร้องขอ ผู้ใช้ไฟฟ้ารายใด ที่สงสัยว่ามิเตอร์คลาดเคลื่อน มีสิทธิที่จะร้องขอให้การไฟฟ้าฯ ทำการทดสอบมิเตอร์ดังกล่าวได้ โดยการไฟฟ้าฯจะทดสอบติดตั้งมิเตอร์เปรียบเทียบ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง <br>หรือนำมิเตอร์ไปตรวจสอบที่กองมิเตอร์ และจะถือผลการทดสอบมิเตอร์ที่คลาดเคลื่อนไม่เกิน 2.5%ถือว่ามิเตอร์นั้นถูกต้อง การไฟฟ้าฯจะคิดค่าใช้จ่ายในการทดสอบตามระเบียบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถ้าผลการทดสอบคลาดเคลื่อนแสดงค่าเกิน 2.5 % การไฟฟ้าฯจะเปลี่ยนมิเตอร์ให้ใหม่ และไม่คิดค่าทดสอบมิเตอร์ กับทั้งจะปรับปรุงเพิ่ม หรือลดหนี้สินส่วนที่คลาดเคลื่อน กับค่าไฟฟ้าในเดือนถัดไป <br><br>--------------------------------------------------------------------------------<br><br>การย้ายมิเตอร์<br>ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องนำหลักฐานดังต่อไปนี้แสดงต่อพนักงานไฟฟ้าในท้องที่ที่จะขอย้าย คือ <br><br><br>ใบเสร็จค่าประกันการใช้ไฟฟ้า <br>ใบเสร็จค่าไฟฟ้าครั้งสุดท้าย <br>บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ <br>ทะเบียนบ้านที่จะย้ายมิเตอร์ไป <br> <br><br>การเพิ่มขนาดมิเตอร์<br><br>ถ้าผู้ใช้ไฟฟ้าติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิม ต้องไปแจ้งการไฟฟ้าฯเพื่อมาตรวจสอบเพิ่มขนาดมิเตอร์ <br>โดยผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องนำหลักฐานไปแสดงเมื่อจะขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ ดังนี้ <br><br>ใบเสร็จค่าประกันการใช้ไฟฟ้า <br>ใบเสร็จค่าไฟฟ้าครั้งสุดท้าย <br>บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ <br> <br><br>การโอนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า<br>การโอนชื่ออาจมีได้ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้ <br><br>มีการซื้อขายบ้านที่ติดตั้งการใช้ไฟฟ้านั้น <br>ผู้ขอใช้ไฟฟ้าเดิมถึงแก่ความตาย <br>อื่นๆเช่นการโอนระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้เช่าหรือผู้เช่ากับผู้เช่าช่วง เป็นต้น การโอนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าคู่กรณีต้องนำหลักฐานดังต่อไปนี้มาแสดงด้วยคือ <br><br>3.1 บัตรประจำตัวของผู้โอนและผู้รับโอน(ยกเว้นการโอนตามข้อ 2 ไม่ต้องแสดงบัตรประจำตัว ของผู้โอน) <br>3.2 สำเนาทะเบียนบ้านที่ติดตั้งการใช้ไฟฟ้าของผู้รับโอน <br>3.3 สำเนาใบมรณบัตรของผู้ใช้ไฟฟ้าเดิม(ใช้สำหรับกรณีผู้ขอใช้ไฟฟ้าเดิมถึงแก่ความตาย) <br>3.4 สำเนาสัญญาซื้อขาย(ใช้สำหรับกรณีที่มีการซื้อขายบ้าน) <br>3.5 ใบเสร็จค่าไฟฟ้าครั้งสุดท้ายของผู้โอน <br>3.6 ใบเสร็จรับเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้า <br>3.7 หลักฐานอื่นๆที่จำเป็นสำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการย้ายมิเตอร์ การเพิ่มขนาดมิเตอร์ และการโอนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าพนักงานการไฟฟ้าฯ <br>จะชี้แจงรายละเอียดต่อท่านเมื่อนำหลักฐานไปติดต่อแจ้งความประสงค์ <br><br>การเลิกใช้ไฟฟ้า <br><br>หลักฐานที่จะต้องนำไปแสดงเพื่อขอรับเงินค่าประกันการไฟฟ้าคืน <br><br>บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ <br>ใบเสร็จค่าประกันการใช้ไฟฟ้า <br>ใบเสร็จค่าไฟฟ้าครั้งสุดท้าย ผู้ใช้ไฟฟ้าอาจจะมอบให้ผู้อื่นไปทำการแทนได้ <br>โดยทำหนังสือมอบอำนาจซี่งมีผู้ลงนามเป็นพยาน 2 คน และปิดอากรแสตมป์ 10 บาท ผู้รับมอบอำนาจจะต้องนำหลักฐานตามข้อ 1-3 ของผู้มอบอำนาจไปแสดงพร้อมหลักฐาน ตามข้อ 1ของผู้รับมอบอำนาจเองด้วย <br>เมื่อท่านนำหลักฐานดังกล่าวไปแสดงต่อการไฟฟ้าฯ ในท้องที่ของท่านและเขียนคำร้องขอเลิกใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าฯจะตรวจสอบหลักฐานว่าท่านยังเป็นหนี้ค่าไฟฟ้าและภาระผูกพันอื่นๆอยู่อีกหรือไม่แล้วจึงคืนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ท่าน <br>การปฏิบัติผิดระเบียบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค <br><br> <br><br>เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าปฏิบัติผิดระเบียบข้อบังคับของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฯจะไม่จ่ายหรืองดจ่ายไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าในกรณีต่อไปนี้ <br><br>การเดินสายไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในและหรือภายนอก ยังไม่เรียบร้อยถูกต้องตามมาตรฐาน <br>ไม่ชำระเงินตามกำหนดในใบเตือน <br>ยินยอมให้ผู้อื่นต่อพ่วงไฟฟ้าไปใช้สถานที่อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในคำร้องขอใช้ไฟฟ้า <br>ละเมิดการใช้ไฟฟ้าหรือกระทำการใดๆให้การไฟฟ้าฯได้รับความเสียหายและไม่ยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย ตามที่การไฟฟ้าฯได้เรียกเก็บ <br>กระทำการอันอาจจะทำให้เกิดเหตุขัดข้องหรืออาจเกิดอันตรายหรือการใช้ไฟฟ้าที่รบกวนผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่น <br>ในกรณีที่มีการงดจ่ายไฟฟ้าการไฟฟ้าฯจะจ่ายไฟฟ้าให้ใหม่ต่อเมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าได้ชำระเงินส่วนที่ค้างหรือชำระ <br>ค่าเสียหายให้แก่การไฟฟ้าฯแล้วและต้องชำระค่าธรรมเนียมรวมทั้งค่าบริการต่างๆตามอัตราที่การไฟฟ้าฯกำหนดไว้ <br>การละเมิดการใช้ไฟฟ้าเช่นการต่อไฟฟ้าตรงโดยไม่ผ่านมิเตอร์ตลอดจนการกระทำใดๆที่ทำให้มิเตอร์วัดค่าผิด <br>ไปจากที่ใช้ไฟฟ้าจริงฯลฯจะมีความผิดต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา ข้อหาลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์มีโทษทั้งปรับและจำคุก <br>การไฟฟ้าฯไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายซึ่งเกิดจากไฟฟ้าขัดข้องหรือต้องหยุดจ่ายไฟฟ้าเพราะความจำเป็นหรืองดจ่ายไฟฟ้าด้งกล่าวข้างต้น <br>การแจ้งกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเกิดปัญหาในเรื่องระบบไฟฟ้าขัดข้องภายในหรือภายนอกอาคารของท่าน ซี่งท่านไม่สามารถดำเนินการแก้ไขเองได้ กรุณาติดต่อได้ที่ การไฟฟ้าฯในท้องที่ที่ท่านอยู่ ซี่งจะมีพนักงานช่างของการไฟฟ้าฯประจำ อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง การอ่านหน่วยมิเตอร์สำหรับผู้ใช้ไฟประเภทที่อยู่อาศัย และใช้ไฟสม่ำเสมอ <br> <br><br><br>กา รไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะทำการอ่านหน่วยในมิเตอร์สำหรับผู้ใช้ไฟประเภทที่อยู่อาศัยและใช้ไฟสม่ำเสมอ2เดือนครั้งในเดือนที่เว้นการจดหน่วยจะใช้วิธีเฉลี่ยหน่วยการใช้ไฟของผู้ใช้ไฟที่ผ่านมา2 เดือนหากหน่วยที่นำมาเฉลี่ยคิดค่าไฟในเดือนที่เว้นการจดหน่วยสูงหรือต่ำกว่าหน่วยที่ใช้จริง การไฟฟ้าฯจะปรับปรุงให้ถูกต้องในเดือนถัดไป ซึ่งเป็นเดือนที่ทำการจดหน่วย <br><br>ตัวอย่างเช่น <br>นาย ก. เริ่มต้นใช้ไฟในเดือนกุมภาพันธ์ 2537 ในเดือนมีนาคม 2537 เลขที่อ่านได้ 0050 เท่ากับ 50 หน่วย ในเดือนเมษายนเลขที่อ่านได้ 0096 หน่วย หน่วยการใช้ไฟในเดือนมีนาคมเท่ากับ 0096 - 0050 เท่ากับ 46 หน่วย ในเดือน เมษายน การไฟฟ้าฯจะเว้นการจดหน่วย แต่จะคิดค่าไฟฟ้า 48 หน่วย โดยวิธีนำหน่วยของเดือนกุมภาพันธ์ มารวมกับเดือน มีนาคม และหารด้วย 2 {(50+46)/2=48หน่วย}ในเดือนมิถุนายนทำการจดหน่วยได้0191หน่วย การไฟฟ้าฯจะคิดค่าไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟ โดยการนำหน่วยของเดือนเมษายนมาหักออกดังนี้ 0191 - 0096 เท่ากับ 95 และหักด้วยหน่วยเฉลี่ย ของเดือนพฤษภาคมอีก 48 หน่วย ดังนั้นหน่วยเดือนมิถุนายน เท่ากับ95-48=47หน่วยสำหรับผู้ใช้ไฟที่ใช้ไฟสม่ำเสมอจะไม่เกิดผลได้ หรือผลเสียแต่อย่างใด เนื่องจากในเดือนที่จดหน่วย การไฟฟ้าฯจะปรับปรุงหน่วยให้ถูกต้อง ดังนั้นหากท่านใช้ไฟเดือนใดมากน้อยกว่าที่ใช้เป็นปกติ เช่นมีการฉายภาพยนตร์หรือจัดงานเลี้ยง หรืองดการปั๊มน้ำ ได้โปรดแจ้งพนักงานเก็บเงินหรือตัวแทนเก็บเงินทราบ เพื่อการไฟฟ้าฯจะทำการจดหน่วยการใช้ไฟของท่านให้ถูกต้องในเดือนต่อไป หากท่านสงสัยเกี่ยวกับการจดหน่วย 2เดือนครั้งโปรดติดต่อสอบถามได้ จากพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตัวแทนเก็บเงิน หรือสำนักงานการไฟฟ้าในท้องถิ่นของท่าน <br>ข้อควรระวังและข้อเตือนใจ <br>1. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับคำร้องเรียนจากผู้ใช้ไฟฟ้าและผู้ขอใช้ไฟฟ้าเสมอว่า มีบุคคลภายนอกอ้างตนเป็นพนักงานการไฟฟ้าฯไปหลอกลวงผู้ใช้ไฟฟ้าให้หลงเชื่อว่า เมื่อให้บุคคลผู้นั้นดำเนินการใดๆเกี่ยวกับการ ขอใช้ไฟฟ้า การเดินสายไฟฟ้าและรวมทั้งการติดตั้งมิเตอร์โดยขอรับผลประโยชน์ตอบแทนและผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้อง ไปติดต่อที่สำนักงานการไฟฟ้าฯในท้องที่ที่ท่านอยู่เลยนั้นขอจงอย่าเชื่อโปรดไปติดต่อที่สำนักงานการไฟฟ้าฯโดยตรง <br>ฉะนั้นถ้าปรากฏว่ามีบุคคลใดแอบอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมารับดำเนินการใดๆโดยขอรับ <br>ผลประโยชน์ตอบแทนแล้วขอให้แจ้งผู้บังคับบัญชาของการไฟฟ้าฯในท้องที่ที่ท่านอยู่ทันที จะเป็นพระคุณยิ่ง 2. การชำระค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมใดๆผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องรับใบเสร็จรับเงินของการไฟฟ้าฯจากผู้รับเงิน <br>ไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าอยู่แล้ว เมื่อจะมาติดต่อเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าโปรดนำใบเสร็จรับเงินไปแสดงด้วยทุกครั้ง <br><br>--------------------------------------------------------------------------------<br><br>คำเตือน<br>ด้วยปรากฏว่าปัจจุบันมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลทำการติดต่อกับสถานประกอบธุรกิจ และโรงงานอุตสาหกรรม <br>ในเขตจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อรับจ้างดัดแปลงหรือแก้ไขมิเตอร์ หรืออุปกรณ์ประกอบให้หน่วยลดลง เพื่อให้เสียค่าไฟฟ้าน้อยด้วยวิธีต่างๆและดิดค่าจ้างต่อครั้งหรือตลอดไป ในการนี้มีสถานประกอบธุรกิจ และโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งหลงเชื่อยินยอมจ้างวาน โดยเข้าใจว่าจะได้รับประโยชน์ จากการกระทำดังกล่าว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใคร่ขอเรียนชี้แจงว่า การจ้างวานให้ดัดแปลง หรือแก้ไขมิเตอร์ หรืออุปกรณ์ประกอบ มิได้ก่อประโยชน์ให้กับกิจการของท่านแต่ประการใด แต่กลับทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับค่าไฟฟ้ามากกว่าที่ควร เพราะนอกจากเสียค่าจ้างวานให้กระทำการแล้วยังต้องชดใช้ค่าละเมิดการใช้ไฟฟ้า หรือค่าเสียหายหรือชำระค่าไฟฟ้า เพิ่มตามที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียกร้อง จึงขอเรียนเตือนว่า อย่าให้ความร่วมมือกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลดังกล่าว <br>เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ทั้งผู้จ้างวานและผู้รับจ้าง เท่ากับเป็นการลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ของการไฟฟ้า <br>ส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ จะต้องถูกดำเนินคดีฟ้องร้องทั้งทางแพ่ง และทางอาญา กับทั้งยังต้องถูกงดจ่ายไฟฟ้า เป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อน ต่อการประกอบกิจการ ดังนั้นใคร่ขอความร่วมมือมายังท่าน หากบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ใดมาติดต่อรับจ้างดัดแปลงหรือแก้ไขมิเตอร์หรืออุปกรณ์ประกอบ โปรดแจ้งให้สำนักงานการไฟฟ้าฯในท้องที่ของท่าน ทราบทันที ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยกันรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินของทางราชการ และสำหรับบุคคล หรือกลุ่มบุคคล อ้างตนเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาติดต่อ ขอให้ท่านตรวจสอบหนังสือนำตัวในการเข้ามาตรวจสอบมิเตอร์หรือ บัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐและจดเลขที่ บัตรชื่อ-สกุลไว้ ก่อนที่จะให้เข้าทำการตรวจสอบมิเตอร์เพื่อป้องกันการ กล่าวอ้าง <br> <br><br><br><br><br>
ความคิดเห็นที่ 2
เล็ก
07/10/2550
16:31 น.
แนวปฏิบัติในการเดินสายและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า <br>บทที่ 4 การออกแบบระบบไฟฟ้า<br><br>1. วงจรย่อย <br><br>1.1 ขอบเขต <br>ให้ใช้เฉพาะกับวงจรแสงสว่างหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือทั้ง 2 อย่าง รวมกันเท่านั้น <br>1.2 ข้อกำหนดของวงจรย่อย <br>(1) สายวงจรย่อยต้องมีขนาดเพียงพอที่จะจ่ายโหลด และมีขนาดไม่เล็กกว่า 1.50 ตารางมิลลิเมตร <br>(2) วงจรย่อยทุกวงจรต้องมีเครื่องป้องกันกระแสเกิน เพื่อตัดวงจรเมื่อเกิดการลัดวงจรหรือใช้ไฟฟ้าเกินขนาด <br>(3) ขนาดของวงจรย่อยกำหนดตามขนาดมาตรฐานของเครื่องป้องกันกระแสเกินที่ป้องกันวงจรย่อยนั้น ๆ เช่น 5 10 15 20 30 หรือ 50 แอมแปร์ <br>(4) วงจรย่อยซึ่งมีจุดต่อทางไฟฟ้าตั้งแต่ 2 จุดขึ้นไปต้องมีโหลดดังต่อไปนี้ <br>ก. วงจรย่อยขนาด 5 10 15 และ 20 แอมแปร์ โหลดที่ติดตั้งถาวรรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของขนาดวงจรย่อย เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เต้าเสียบ โหลดของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เต้าเสียบแต่ละเครื่องจะต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของขนาดวงจรย่อย <br>ข. วงจรย่อยขนาด 30 แอมแปร์ ให้ใช้กับดวงโคมไฟฟ้าที่ติดตั้งถาวรขนาดชุดละไม่ต่ำกว่า 660 วัตต์ หรือใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งไม่ใช่ดวงโคม โหลดของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เต้าเสียบแต่ละเครื่องจะต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของขนาดวงจรย่อย <br>ค. วงจรย่อยขนาด 40 และ 50 แอมแปร์ ให้ใช้กับดวงโคมไฟฟ้าที่ติดตั้งถาวรขนาดชุดละไม่ต่ำกว่า 660 วัตต์ หรือใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งถาวร <br><br><br>(5) โหลดของวงจรย่อยต้องคำนวณตามที่กำหนดดังต่อไปนี้ <br>ก. โหลดต่อเนื่องของวงจรย่อยต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของขนาดวงจรย่อย <br>ยกเว้น ชุดของเครื่องป้องกันกระแสเกินที่ได้ออกแบบให้ใช้งานได้ร้อยละ 100 ยอมให้โหลดต่อเนื่อง ของวงจรย่อยใช้ได้ไม่เกินร้อยละ 100 ของขนาดวงจรย่อย <br>ข. โหลดแสงสว่างและโหลดของเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่ทราบแน่นอนให้คิดตามที่ติดตั้งจริง <br>ค. โหลดของเต้ารับใช้งานทั่วไป ให้คิดโหลดเต้าละ 180 โวลต์แอมแปร์ <br>ง. โหลดของเต้ารับที่ใช้เฉพาะงานให้คิดโหลดตามขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ <br><br>2. สายป้อน <br><br>(1) สายป้อนต้องมีขนาดเพียงพอที่จะจ่ายโหลดให้วงจรย่อยได้ไม่น้อยกว่าผลรวมของโหลดในวงจรย่อยและมีขนาดไม่เล็กกว่า 2.50 ตารางมิลลิเมตร <br>(2) การคำนวณขนาดของสายป้อน ให้ใช้ดีมานต์แฟคเตอร์ตาม ตารางที่ 4-1 , ตารางที่ 4-2 และ ตารางที่ 4-3 ช่วยคำนวณ <br>(3) สำหรับเต้ารับใช้เฉพาะงาน ให้คิดโหลดจากขนาดของเต้ารับที่มีขนาดสูงสุด รวมกับร้อยละ 75 ของขนาดเต้ารับที่เหลือ<br><br>3. สายนิวตรอล <br><br>(1) ต้องมีขนาดเพียงพอที่จะรับกระแสโหลดไม่สมดุลย์สูงสุดและกระแสฮาร์โมนิกส์ได้ <br>(2) ในระบบ 3 เฟส 4 สาย กระแสโหลดไม่สมดุลย์สูงสุด คำนวณจากผลรวมของโหลด 1 เฟส ที่ต่ออยู่ระหว่างสายนิวตรอลกับสายเฟสใดเฟสหนึ่ง ที่มีค่ารวมกันมากที่สุด<br>(3) ยอมให้ลดส่วนของกระแสโหลดไม่สมดุลย์ที่เกิน 200 แอมแปร์ ร้อยละ 30 ยกเว้น ในกรณีที่โหลดเป็นหลอดชนิดปล่อยประจุ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องประมวลผลอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องอุปกรณ์อื่นที่คล้ายกันที่รับไฟจากระบบ 3 เฟส 4 สายแบบวาย <br><br>4. เครื่องป้องกันกระแสเกินสำหรับวงจรย่อยและสายป้อน <br>วงจรย่อยและสายป้อนต้องมีการป้องกันกระแสเกินเครื่องป้องกันกระแสเกินมีรายละเอียด ดังนี้.- <br><br>(1) เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องสามารถป้องกันตัวนำทุกสายเส้นไฟ ยกเว้น ตัวนำที่มีการต่อลงดิน <br>(2) ขนาดของเครื่องป้องกันกระแสเกินต้องไม่น้อยกว่าโหลดไม่ต่อเนื่องบวกด้วยร้อยละ 125 ของโหลดต่อเนื่อง และต้องมีขนาดไม่เกินขนาดกระแสของสายไฟฟ้าเป็นไปตาม ตารางที่ 6-2 <br>(3) เครื่องป้องกันกระแสเกินอาจเป็นฟิวส์ หรือสวิตซ์อัตโนมัติก็ได้ <br>(4) ฟิวส์ สวิตซ์อัตโนมัติหรือการผสมของทั้งสองอย่างนี้ จะนำมาต่อขนานกันไม่ได้ ยกเว้น เป็นผลิตภัณฑ์มาตรฐานที่ประกอบสำเร็จมาจากโรงงานผู้ผลิต และเป็นแบบที่ได้รับความเห็นชอบว่าเป็นหน่วย (Unit) เดียวกัน <br>(5) ในกรณีที่ติดตั้งเครื่องป้องกันกระแสเกินเพิ่มเติมสำหรับดวงโคมเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออื่น ๆ เครื่องป้องกันกระแสเกินเพิ่มเติมเหล่านี้จะใช้แทนเครื่องป้องกันกระแสเกินของวงจรย่อยไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องเข้าถึงได้ทันที <br>(6) ตำแหน่งของเครื่องป้องกันกระแสเกินต้องเป็นดังนี้ <br><br><br>ก. เครื่องป้องกันกระแสเกินสำหรับวงจรย่อย ต้องติดตั้ง ณ จุดที่ห่างจากสายป้อนที่จ่ายพลังงานให้เป็นระยะความยาวของสายไม่เกิน 3 เมตร <br>ข. เครื่องป้องกันกระแสเกินสำหรับสายป้อน ต้องติดตั้ง ณ จุดที่ใกล้กับหม้อแปลงหรือสายเมนที่จ่ายพลังงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ <br><br><br>(7) เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องไม่ติดตั้งในสถานที่ซึ่งอาจเกิดความเสียหายได้และต้องไม่อยู่ใกล้กับวัตถุที่ติดไฟง่าย <br>(8) เครื่องป้องกันกระแสเกิน ต้องบรรจุไว้ในกล่องหรือตู้อย่างมิดชิด แต่เฉพาะด้ามสับของสวิตซ์อัตโนมัติยอมให้โผล่ออกมาข้างนอกได้ <br>ยกเว้น หากติดตั้งไว้ที่แผงสวิตซ์หรือแผงควบคุม ซึ่งอยู่ในห้องที่ไม่มีวัตถุติดไฟง่ายและไม่มีความชื้นด้วย ส่วนเครื่องป้องกันกระแสเกิน สำหรับบ้านอยู่อาศัยขนาดไม่เกิน 50 แอมแปร์ หนึ่งเฟสไม่ต้องบรรจุไว้ในกล่องหรือตู้ก็ได้ <br>(9) กล่องหรือตู้ซึ่งบรรจุเครื่องป้องกันกระแสเกิน ซึ่งติดตั้งในสถานที่เปียกหรือชื้นต้องเป็นชนิดซึ่งได้รับความเห็นชอบแล้ว และต้องมีช่องว่างระหว่างตู้กับผนังหรือพื้นที่รองรับไม่น้อยกว่า มิลลิเมตร <br>(10) เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องติดตั้งในที่ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้สะดวก มีที่ว่างและแสงสว่างอย่างพอเพียง <br>(11) ต้องทำเครื่องหมายระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและทนต่อสภาพแวดล้อม ติดไว้ที่เครื่องปลดวงจรหรือที่ใกล้เคียงเครื่องปลดวงจรนั้นทุกเครื่อง เช่น เครื่องปลดวงจรของวงจรย่อย สายป้อนหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า <br>ยกเว้น ตำแหน่งและการจัดเครื่องปลดวงจรนั้นชัดเจนอยู่แล้ว <br><br>5. สายเมน <br>สายเมนที่จ่ายไฟให้ผู้ใช้ไฟรายหนึ่ง ๆ ต้องมีชุดเดียว นอกจากในกรณีที่ได้รับความเห็นชอบจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยแบ่งประเทภของสายเมนได้ดังนี้ <br><br>(1) สายเมนอากาศสำหรับระบบแรงต่ำ ต้องเป็นสายหุ้มฉนวน มีขนาดเพียงพอที่จะรับโหลดทั้งหมดได้ โดยมีขนาดไม่เล็กกว่า 2.50 ตารางมิลลิเมตร สำหรับสายทองแดงและไม่เล็กกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร สำหรับสายอะลูมิเนียมและมีข้อกำหนดขนาดของสายเมนภายในอาคาร ตาม ตารางที่ 4-4 <br>(2) สายเมนอากาศสำหรับระบบแรงสูง เป็นสายเปลือยหรือสายหุ้มฉนวนก็ได้ และมีขนาดเพียงพอที่จะรับโหลดทั้งหมดได้ <br>(3) สายเมนใต้ดินสำหรับระบบแรงต่ำ ต้องเป็นสายทองแดงหุ้มฉนวนชนิดที่เหมาะสมกับลักษณะการติดตั้งมีขนาดเพียงพอที่จะรับโหลดทั้งหมดได้และขนาดไม่เล็กกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร <br>(4) สายเมนใต้ดินสำหรับระบบแรงสูง ต้องเป็นสายหุ้มฉนวนชนิดที่เหมาะสมกับลักษณะการติดตั้งและมีขนาดเพียงพอที่จะรับโหลดทั้งหมดได้ <br><br>6. เมนสวิตซ์ <br>ผู้ใช้ไฟต้องติดตั้งเมนสวิตซ์ เพื่อปลดวงจรทุกวงจร ออกจากสายเมนได้ เมนสวิตซ์จะประกอบด้วย เครื่องปลดวงจรและเครื่องป้องกันกระแสเกิน ซึ่งอาจติดตั้งเป็นส่วนร่วมอยู่ในเครื่องเดียวกัน หรือเครื่องป้องกันกระแสเกินอาจมีคุณสมบัติเป็นเครื่องปลดวงจรได้ด้วย <br>6.1 เครื่องปลดวงจรระบบแรงต่ำ <br>(1) เครื่องปลดวงจรชนิด 1 เฟส ขนาดตั้งแต่ 50 แอมแปร์ขึ้นไปและชนิด 3 เฟส ทุกขนาด ต้องเป็นแบบที่ปลด-สับได้ขณะมีโหลด <br>(2) เครื่องปลดวงจรต้องสามารถปลดวงจรทุกสายเส้นไฟได้พร้อมกันอย่างจงใจ <br>(3) ที่เครื่องปลดวงจรต้องสามารถมองเห็นได้ว่า อยู่ในตำแหน่งปลดหรือสับ <br>(4) เครื่องปลดวงจรต้องมีพิกัดไม่น้อยกว่าเครื่องป้องกันกระแสเกินขนาดใหญ่สุดในระบบ <br>(5) เครื่องปลดวงจรที่มีเครื่องห่อหุ้ม ต้องสามารถปลดวงจรได้โดยไม่ต้องเปิดฝาเครื่องห่อหุ้ม <br>(6) เครื่องปลดวงจรจะติดตั้งภายในหรือภายนอกอาคารก็ได้ แต่ต้องเลือกชนิดให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน และควรติดตั้งให้อยู่ใกล้กับแหล่งจ่ายไฟและสามารถเข้าปฏิบัติงานได้สะดวก <br>(7) ห้ามต่อเครื่องอุปกรณ์ด้านไฟเข้าของเครื่องปลดวงจร <br>ยกเว้น การต่อเข้าเครื่องวัด คะแปซิเตอร์ สัญญานต่าง ๆ เพื่อใช้ในวงจรควบคุมของเมนสวิตซ์ ที่ต้องมีไฟเมื่อเครื่องปลดวงจรอยู่ในตำแหน่งปลด <br><br>6.2 เครื่องป้องกันกระแสเกินระบบแรงต่ำ <br>(1) เครื่องป้องกันกระแสเกินของเมนสวิตซ์จะต่อออกจากเครื่องปลดวงจรของเมนสวิตซ์ <br>(2) ห้ามติดตั้งเครื่องป้องกันกระแสเกิน ในสายเส้นที่มีการต่อลงดิน <br>ยกเว้น เครื่องป้องกันกระแสเกินที่เป็นสวิตซ์อัตโนมัติซึ่งมีการตัดวงจรเมื่อมีกระแสไหลเกิน <br>(3) เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องมีความสามารถตัดกระแสลัดวงจรสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นได้และต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 10 กิโลแอมแปร์<br>(4) สวิตซ์อัตโนมัติ ต้องเป็นชนิดที่ปลดได้โดยอิสระ (trip free) และต้องมีเครื่องหมายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สวิตซ์อยู่ในตำแหน่งใด <br>(5) เครื่องป้องกันกระแสเกินที่มีคุณสมบัติตามข้อ 4.6.1 ให้ทำหน้าที่เป็นเครื่องปลดวงจรได้ <br>(6) การป้องกันกระแสเกิน ต้องเป็นไปตามที่กำหนดในข้อ 4.4 สำหรับข้อที่นำมาใช้ด้วยได้ <br><br><br>6.3 เครื่องปลดวงจรระบบแรงสูง<br>(1) เครื่องปลดวงจร ต้องสามารถปลดวงจรของผู้ใช้ไฟออกจากระบบจำหน่ายของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยติดตั้งในบริเวณที่ดินของผู้ใช้ไฟ ณ ตำแหน่งที่ใกล้กับจุกแยกสายมากที่สุด ในกรณีที่มีอุปกรณ์ป้องกันสำหรับเครื่องวัดแรงสูงที่ต้นทางให้ถือว่ามีเครื่องปลดวงจรแล้ว <br>(2) เครื่องปลดวงจร ต้องปลดสายเส้นไฟทั้งหมดได้พร้อมกัน <br>ยกเว้น ดรอปเอาท์ฟิวส์คัทเอาท์ ดิสคอนเนคติ้งสวิตซ์ <br>(3) กรณีที่เครื่องปลดวงจรเป็นชนิด fuse cutout ชนิด drop out ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าหรือโครงสร้างอื่น ที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกับเสาไฟฟ้า ไม่บังคับให้ปลดวงจรทุกสายเส้นไฟได้พร้อมกัน นอกจากจะมีกำหนดไว้ โดยเฉพาะในเรื่องนั้น ๆ <br>(4) เครื่องปลดวงจรที่เป็นฟิวส์สวิตซ์ หรือมีฟิวส์ประกอบ ต้องสามารถตัดกระแสลัดวงจรในขณะสับเครื่องปลดวงจรได้ โดยเครื่องปลดวงจรไม่ชำรุด <br>(5) เมนสวิตซ์ต้องมีหรือเตรียมการต่อสายทางด้านไฟออกลงดินไว้ให้พร้อม เมื่อปลดโหลดออกจากแหล่งจ่ายไฟ <br><br><br>6.4 เครื่องป้องกันกระแสเกินระบบแรงสูง <br>(1) ในสายเส้นไฟทุกเส้น จะต้องติดตั้งเครื่องป้องกันกระแสเกิน <br>(2) ถ้าใช้ฟิวส์ จะต้องมีค่ากระแสต่อเนื่องไม่เกิน 3 เท่า ของขนาดกระแสของตัวนำ <br>(3) ถ้าเป็นตัดตอนอัตโนมัติ (Circuit breaker) จะต้องมีขนาดปรับตั้งไม่เกิน 6 เท่าของขนาดกระแสของตัวนำ และมีคุณสมบัติดังนี้<br>ก. เป็นแบบปลดได้โดยอิสระ และสามารถปลด-สับ ได้ด้วยมือ <br>ข. สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าอยู่ในตำแหน่งปลดหรือสับ <br>ค. ถ้าเป็นแบบปรับตั้งค่ากระแสหรือเวลาได้ ต้องออกแบบให้กระทำได้เฉพาะผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง <br>ง. มีเครื่องหมายแสดงพิกัดต่างๆ ให้ชัดเจนและถาวร แม้หลังจากติดตั้งแล้ว <br>(4) เครื่องป้องกันกระแสเกินต้องสามารถทำงานสัมพันธ์กับอุปกรณ์ป้องกันของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค<br>
ความคิดเห็นที่ 3
เล็ก
07/10/2550
16:32 น.
ตารางที่4-4 <a href="http://www.pea.co.th/services/table4_4.htm" Target="_BLANK">www.pea.co.th/services/table4_4.htm</a>
ความคิดเห็นที่ 4
อยากทำเอง
08/10/2550
20:32 น.
ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง<br>
ความคิดเห็นที่ 5
นิด
30/06/2552
18:30 น.
อยากทราบค่ะว่า การขอมิสเตอร์ไฟฟ้าแยกค่ะ ต้องใช้เอกสารใดบ้างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
ออ
09/12/2553
10:08 น.
อยากทราบว่าการไฟฟ้าคิดค่าไฟ 3 เฟสที่ไม่สมดุล

คือถ้า เฟสA 50A เฟสB 25A เฟสC 35A ไม่ทราบว่าจะคิดที่เฟสสูงสุดหรือเปล่าครับ
หรือคิดตามที่ใช้จริง ไม่ทราบว่ากิโลวัตต์ฮาวคิดอย่างไง
แต่เมื่อบาลาสเฟสแล้วค่าไฟทำไมลดลงครับถ้าหากคิดตามที่ใช้วัตต์จริงของแต่ละเฟสหรือมีค่าไรคูณเพิ่มครับ
ช่วยหน่อยครับ
ความคิดเห็นทั้งหมด 6 รายการ |
แนบรูปประกอบ:
นามสกุล *.jpg , *.gif เท่านั้น
ชื่อผู้ตอบกระทู้:
คำถามเชิงวิศวกรรม(ตอบเป็นตัวเลขเท่านั้น):
2 เซ็นติเมตรมีกี่มิลลิเมตร
ระบุข้อความยืนยันด้านล่าง: