Top 50 Popular Supplier
1 100,000D_อินเวอร์เตอร์ 175,991
2 100,000D_มิเตอร์วัดไฟฟ้า 173,583
3 100,000D_เครื่องมือช่าง 172,993
4 100,000D_อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ 172,789
5 100,000D_เอซีมอเตอร์ 170,468
6 100,000D_ดีซีมอเตอร์ 169,556
7 100,000D_อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง 168,513
8 100,000D_เครื่องดื่มและสมุนไพร 167,821
9 เคอีบี (KEB ) ประเทศไทย 160,358
10 100,000D_เครื่องใช้ไฟฟ้าครัวเรือน 158,452
11 100,000D_ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง 158,365
12 100,000D_ขายของเล่นเด็ก 157,516
13 E&L INTERNATIONAL CO., LTD. 67,596
14 T.N. METAL WORKS Co., Ltd. 62,134
15 ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด 50,527
16 บ.ไทนามิคส์ จำกัด 43,558
17 Industrial Provision co., ltd 39,228
18 ลาดกระบัง ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด 38,381
19 Infinity Engineering System Co.,Ltd 36,299
20 สยาม เอลมาเทค (siam elmatech) 34,627
21 ไทยเทคนิค อีเล็คตริค จำกัด 33,451
22 ฟอร์จูน เมคคานิค แอนด์ ซัพพลาย 31,855
23 เอเชียเทค พาวเวอร์คอนโทรล จำกัด 31,222
24 บริษัท เวิลด์ ไฮดรอลิคส์ จำกัด 30,962
25 โปรไดร์ฟ ซิสเต็ม จำกัด 27,586
26 ซี.เค.แอล.โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง 26,518
27 P.D.S. Automation co.,ltd 22,953
28 AVERA CO., LTD. 22,588
29 เลิศบุศย์ 21,689
30 ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอ-รีไซเคิล กรุ๊ป 20,389
31 เทคนิคอล พรีซิชั่น แมชชีนนิ่ง 20,248
32 แมชชีนเทค 19,897
33 Electronics Source Co.,Ltd. 19,872
34 อีดีเอ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด 19,188
35 มากิโน (ประเทศไทย) 19,143
36 ทรอนิคส์เซิร์ฟ จำกัด 18,802
37 Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. 18,605
38 SAMWHA THAILAND 18,296
39 วอยก้า จำกัด 17,904
40 CHEMTEC AUTOMATION CO.,LTD. 17,482
41 IWASHITA INSTRUMENTS (THAILAND) LTD. 17,334
42 ดีไซน์ โธร แมนูแฟคเจอริ่ง 17,306
43 I-Mechanics Co.,Ltd. 17,243
44 เอส.เอส.บี สยาม จำกัด 17,220
45 Intelligent Mechantronics System (Thailand) 17,137
46 ศรีทองเนมเพลท จำกัด 17,071
47 Systems integrator 16,715
48 เอ็นเทค แอสโซซิเอท จำกัด 16,634
49 ดาต้า เอ็นทรี่ กรุ๊ป จำกัด 16,459
50 Advanced Technology Equipment 16,446
26/08/2553 09:43 น. , อ่าน 5,334 ครั้ง
Bookmark and Share
เร่งยื่นศาลปลดล็อกมาบตาพุด หลังบอร์ดสิ่งแวดล้อมล้อมคอก 11 กิจการรุนแรง
โดย : Admin

ไทยรัฐออนไลน์
26 สิงหาคม 2553
 

 







 

อุตสาหกรรมมอบอัยการส่งข้อมูลมติบอร์ด สวล.กำหนด  11 กิจการรุนแรงต่อศาลฯ ปลดล็อกลงทุนมาบตาพุดวันนี้ย้ำภาพลงทุนชัดเจน  ขณะที่เอกชนยังต้องรอศาลชี้ชะตาก่อนเดินหน้าโครงการชี้กรอบเวลาทำ  EIA-HIA  ไม่ชัดเจน  หวั่นใช้เวลาร่วม  2  ปี กว่าจะเห็นหน้าเห็นหลัง...

 

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานศูนย์ประสานงานการลงทุนเพื่อแก้ ปัญหามาบตาพุด  (OSOS)  เปิดเผยหลังการหารือกับผู้ประกอบการ  76  โครงการ  ที่ถูกคำสั่งระงับกิจการจากกรณีปัญหามาบตาพุดว่า ได้มอบให้อัยการที่เป็นตัวแทน 8 หน่วยงาน รัฐที่ถูกฟ้อง  นำข้อมูลกรณีมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่เห็นชอบ 11 โครงการ  หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง  ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม  ทรัพยากรธรรมชาติ  และสุขภาพ  ซึ่งถือเป็นข้อมูลใหม่เสนอต่อศาลปกครองกลางในวันที่  26  ส.ค.นี้  ที่จะมีการพิจารณานัดไต่สวนครั้งแรกเพื่อสืบโจทก์และพยาน


"เรื่องนี้ต้องรอประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ชัดเจนกว่านี้  และได้ มอบให้ผู้ประกอบการทำหนังสือถึง OSOS เพื่อที่จะดูว่าเข้าข่ายรุนแรงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม  กิจการทั้งหมดก็พร้อมที่จะทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ  หรือเอชไอเอ  และเอกชนส่วนใหญ่ยังมีข้อกังวลในการทำเอชไอเอ โดยเฉพาะกรอบเวลา  ซึ่งอาจมีผลต่อการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ส่วนกิจการรุนแรงที่ประกาศมาไม่กังวลหากจะมีกิจการใดย้ายฐานการผลิตออกจากไทยโดยไม่คำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและชุมชน"


นายบวร วงศ์สินอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโสปฏิบัติการ  บริษัท  ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น  จำกัด  (มหาชน)  (PTTAR)  กล่าวว่า  การประกาศกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนรุนแรงออกมาถือว่าได้สร้างความชัดเจนต่อทั้งนักลงทุน ชุมชน  และองค์กรภาคเอกชน แต่ทั้งหมดคงจะต้องรอประกาศจากศาลฯ ว่าท้ายสุดจะออกมาอย่างไรจึงจะทำให้เอกชนสามารถเดินหน้ากิจการได้


ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริษัท  ปตท.  จำกัด (มหาชน) ว่า  เครือ  ปตท.มีกิจการที่ถูกระงับ  25  กิจการ  ที่เป็นกิจการของ  ปตท.เอง  โดยไม่ได้ร่วมทุน  3  กิจการ  ซึ่งหากศาลมีคำสั่งชัดเจนก็จะทำให้  3  กิจการ  เดินหน้าได้ทันที  โดย 1 ในกิจการดังกล่าวเป็นโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 และโครงการควบคุมไอน้ำมัน เป็นต้น


นายพยุงศักดิ์  ชาติสุทธิผล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวยอมรับว่า  การทำเอชไอเอยังเป็นของใหม่สำหรับเอกชน  ระยะแรกอาจจะติดขัดบ้าง  อย่างไรก็ตาม  ระยะเวลาดำเนินการหรือการนับระยะเวลาในกระบวนการเช่นรับฟังความเห็น  ฯลฯ  ยังไม่ชัดเจน  และกังวลว่าการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม  (อีไอเอ)  และเอชไอเอ  อาจต้องใช้เวลานานถึง  2  ปี


นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวหลังการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายส่งเสริมการลงทุนและสภาพแวดล้อมของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันของไทย" ให้กับนักธุรกิจจากประเทศสมาชิกเอเปคกว่า  150  ราย  ที่เข้าร่วมการประชุมสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปคครั้งที่ 3 ประจำปี 2010 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพว่า  หลังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบกำหนด  11  โครงการ  หรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง  จะทำให้ภาพการลงทุนไทยชัดเจนขึ้นอีกระดับหนึ่ง


ทั้งนี้ เวทีดังกล่าวนับเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับบรรยากาศทางธุรกิจของไทย รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลเรื่องโอกาสและลู่ทางการลงทุน โดยในช่วง 7 เดือนแรกปี 53 นักลงทุนจากประเทศสมาชิกเอเปคได้เข้ามาลงทุนในไทยรวมมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 70 ของการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในไทย



 

========================================================